บทสรุปลาลีก้าสเปน! แอต.มาดริดแชมป์สมัยที่11 เมสซี่ซิวดาวซัลโว
ถือเป็นฤดูกาลที่ลุ้นแชมป์ยันวินาทีสุดท้ายจริงๆ สำหรับศึก ลา ลีกา สเปน ซีซั่น 2020/21 ที่ “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด สามารถคว้าแชมป์ลีกมาครองได้เป็นสมัยที่ 11 และถือเป็นสมัยแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2013/14 ด้วยการมีคะแนนมากกว่า เรอัล มาดริด ทีมแชมป์เก่า ที่จบอันดับสอง แค่ 2 แต้มเท่านั้น หลังจากที่ทั้งสองสโมสรต่างเก็บชัยชนะได้ตามเป้าในเกมปิดซีซั่น เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
สำหรับ บาร์เซโลน่า ที่หลุดวงโคจรลุ้นแชมป์ หลังไม่ชนะใคร 3 นัดติด (เสมอ 2, แพ้ 1) ก่อนถึงเกมสุดท้าย จบที่อันดับสาม ตามด้วย เซบีย่า โดยทั้งสี่สโมสรนี้ได้โควตาลุยถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้่ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า ซึ่งก็เป็นสี่สโมสรหน้าเดิมจากฤดูกาลที่แล้ว แตกต่างแค่อันดับเท่านั้น
จริงๆ แล้ว ลา ลีกา ฤดูกาล 2020/21 ยังไม่จบลงอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะยังเหลืออีกสองคู่ ซึ่งจะฟาดแข้งกันในคืนวันอาทิตย์นี้ โดย เซบีย่า พบ เดปอร์ติโบ อลาเบส และ กรานาด้า พบ เคตาเฟ่ แต่ก็ไม่ได้มีความหมายอะไร แค่อาจจะมีการเปลี่ยนอันดับบ้าง สำหรับ อลาเบส, กรานาด้า และ เคตาเฟ่ ทว่า เซบีย่า จบที่อันดับสี่แน่นอน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ในส่วนของสามสโมสรที่จะตกชั้นลงไปลุยในเวที เซกุนด้า ดิบิซิออน ฤดูกาลหน้า ประกอบไปด้วย อ้วยส์ก้า, เรอัล บายาโดลิด และ เออิบาร์ โดย อ้วยส์ก้า ได้กลับขึ้นมาวาดลวดลายในลีกสูงสุดแดนกระทิงดุแค่ฤดูกาลเดียว ขณะที่สองสโมสรที่ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาพร้อมๆ กันอย่าง กาดิซ และ เอลเช่ ต่างเอาตัวรอดได้สำเร็จ
ถึงแม้ บาร์เซโลน่า จบแค่อันดับสาม แต่ ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้ากัปตันทีมคนเก่ง ได้ตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดไปครอง ซึ่งถือเป็นสมัยที่ 8 (มากสุดในประวัติศาสตร์ ลา ลีกา) สำหรับเจ้าตัวแล้ว ต่อจากฤดูกาล 2009/10, 2011/12, 2012/13, 2016/17, 2017/18, 2018/19 และ 2019/20 โดยถือเป็นการได้แบบกวาดเรียบตลอดช่วง 5 ฤดูกาลหลังสุดอีกด้วย นอกจากนี้ เมสซี่ ยังติด “ท็อป 5” ในเรื่องแอสซิสต์เช่นกัน ขณะที่ คาริม เบนเซม่า หัวหอก “ราชันชุดขาว” ก็มีฤดูกาลที่น่าประทับใจ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่เจ้าตัวได้กลับไปมีชื่อติดทีมชาติฝรั่งเศส ชุดสู้ศึก ยูโร 2020 หลังจากที่ห่างหายจากทัพ “ตราไก่” ไปนานร่วมๆ 6 ปี
บทสรุป
– แชมป์ : แอตเลติโก มาดริด
– ได้โควตาเตะ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (อันดับ 1-4) : แอตเลติโก มาดริด, เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า และ เซบีย่า
– โควตาเตะ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก (อันดับ 5-6) : เรอัล โซเซียดาด และ เรอัล เบติส
– โควตาเตะ ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก (อันดับ 7) : บียาร์เรอัล
– ตกชั้น (อันดับ 18-20) : อ้วยส์ก้า, เรอัล บายาโดลิด และ เออิบาร์
ดาวซัลโว 10 อันดับแรก
1. ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า) : 30 ประตู
2. คาริม เบนเซม่า (เรอัล มาดริด) : 23 ประตู
= เคราร์ด โมเรโน่ (บียาร์เรอัล) : 23 ประตู
4. หลุยส์ ซัวเรซ (แอตเลติโก มาดริด) : 21 ประตู
5. ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ (เซบีย่า) : 18 ประตู
6. อเล็กซานเดอร์ อีซัค (เรอัล โซเซียดาด) : 16 ประตู
7. ยาโก้ อัสปาส (เซลต้า บีโก้) : 14 ประตู
= อ็องตวน กรีซมันน์ (บาร์เซโลน่า) : 13 ประตู
= ราฟา มีร์ (อ้วยส์ก้า) : 13 ประตู
= โซเซ่ หลุยส์ โมราเลส (เลบันเต้) : 13 ประตู
จอมแอสซิสต์ 5 อันดับแรก
1. ยาโก้ อัลปาส (เซลต้า บีโก้) : 13 ครั้ง
2. มาร์กอส ยอเรนเต้ (แอตเลติโก มาดริด) : 11 ครั้ง
3. ยานนิค การ์ราสโก้ (แอตเลติโก มาดริด) : 10 ครั้ง
= โทนี่ โครส (เรอัล มาดริด) : 10 ครั้ง
5. คาริม เบนเซม่า (เรอัล มาดริด) : 9 ครั้ง
= ฆอร์เก้ เด ฟรูตอส (เลบันเต้) : 9 ครั้ง
= ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า) : 9 ครั้ง
= เดนิส ซูอาเรซ (เซลต้า บีโก้) : 9 ครั้ง
มุมแสดงทรรศนะ