คะแนนที่คุณคู่ควร! ตัดเกรดนักเตะ หลังเกมพรีเมียร์ลีก ปืนเฮ 3-1 : Player Ratings
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
คืนวันที่ 2 พฤษภาคม 2023
อาร์เซนอล 3-1 เชลซี
สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
ซูเปอร์บิ๊กแมตช์ พรีเมียร์ลีก ที่รังปืน ทั้ง อาร์เซน่อล และ เชลซี ต่างก็โรเตชั่นทีมลงสนามหลายจุด โดยเฉพาะ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่เปลี่ยนทั้งระบบและตัวผู้เล่นอย่างน่าสนใจ กระนั้น ผลลงเอยอย่างที่หลายๆ ฝ่ายคาดไว้ นั่นคือ อาร์เซน่อล ฟื้นฟอร์มกำชัยเหนือ “สิงห์ป่วยเรื้อรัง” ได้อย่างง่ายดาย แค่ครึ่งแรกสกอร์ก็ขาดแล้ว 3-0
ครึ่งหลัง เชลซี ทำดีสุดแค่ตีไข่แตก และจบเกมไปด้วยการแพ้ 6 เกมซ้อนของ แลมพาร์ด ส่วน อาร์เซน่อล เด้งขึ้นจ่าฝูงชั่วคราว ก่อน แมนฯ ซิตี้ ลงเล่นวันพุธ
คะแนนนักเตะอาร์เซน่อล
อารอน แรมส์เดล – 7
แทบจะเอาเสื่อมาปูนอนเล่นใน 20 นาทีแรก จากการที่บอลเป็นของ อาร์เซน่อล
อยู่เกือบตลอด แต่เมื่อ เชลซี ได้โอกาสทองจาก เบน ชิลเวลล์ แล้ว แรมส์เดล ก็พุ่งเซฟไว้ไม่พลาด อย่างไรก็ตามยังมาโดนลูก 1-3 ในครึ่งหลัง ซึ่งถือว่าเสียหน้าหน่อยๆ เมื่อเป็นอีกเกมที่ไม่อาจทำคลีนชีตได้
โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ – 6
ประสานงานกับเพื่อนเกมรับได้ไม่แย่ ปิดเกมของ โนนี่ มาดูเอเก้ ที่นานๆ ครั้งจะขึ้นมาที ได้ดีในครึ่งแรก แต่ครึ่งหลังก็ตามไม่สุดจนเสียลูกตีไข่แตก 1-3
กาเบรียล มากัลเยส – 7
ไม่ได้เจอบททดสอบที่ยากลำบากอะไรจากทั้ง โอบาเมย็อง และแนวรุกเชลซี แถมเกือบโหม่งประตู 4-0 ได้ด้วยแต่โดนสกัดไว้คาบเส้น
ยาคุบ กิวิออร์ – 7
ประเดิมตัวจริงเกมลีกนัดแรก แทนที่ ร็อบ โฮลดิ้ง ที่มีปัญหาฟอร์มการเล่น และถือว่าทำได้ไม่เลว แม้ส่วนหนึ่งจะเป็นเพราะเกมรุกที่ด้อยประสิทธิภาพของทีมเยือนก็ตาม
เบน ไวท์ – 7
ดวลกับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้เยี่ยม ปิดพื้นที่ไม่ให้คู่แข่งได้กระชากผ่านตลบหลัง ส่วนลูกที่เสียไปไม่ถือว่าเป็นการเล่นพลาดโดยส่วนตัว
กรานิต ชาก้า – 9
หวิดพังประตูนำให้ อาร์เซน่อล ตั้งแต่ 4 นาทีแรกจังหวะ อัซปิลิกวยต้า ทำส้มหล่นมาให้ แต่เอาชนะ เคปา ไม่ได้ ทว่าหลังจากนั้นมาทำ 2 แอสซิสต์ด้วยการเปิดจากซ้ายคล้ายๆ กัน รวมถึงเกือบบวก 4-0 จากลูกโซโล่สวยๆ แต่ก็ติดเซฟ เคปา อีก โดยรวมถือว่ามีเกมที่ยอดเยี่ยมเลย
จอร์จินโญ่ – 8
ได้ออกสตาร์ทตัวจริงดวลทีมเก่า แทนมิดฟิลด์เกมรับอย่าง โธมัส ปาร์เตย์ และแสดงให้เห็นชัดถึงคลาสบอลที่ดี คู่แข่งไล่ไม่ค่อยจน รวมถึงออกบอลได้เปรียบอยู่ตลอด
มาร์ติน โอเดการ์ด – 9
ปิดสกอร์นำ 1-0 ด้วยลูกยิงชั้นยอดแบบที่กิน เคปา สบายหายห่วง รวมถึงสอดเข้าช่องว่างไปเบิ้ลลูก 2-0 ต่อเนื่อง ตอกย้ำคุณภาพชั้นยอดในการเป็นมิดฟิลด์จอมทัพตัวท็อปของลีกเวลานี้
เลอันโดร ทรอสซาร์ – 6
เสียบลงตัวจริงแทนดาวซัลโวของทีมอย่าง กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และถือว่าไม่โดดเด่นนักแม้จะได้เล่นลูกเยอะ แต่จังหวะสุดท้ายติดๆ ขัดๆ ไปหน่อย จนในที่สุดโดนถอดออกเป็นคนแรกของฝั่งปืนใหญ่
กาเบรียล เชซุส – 7
ไม่ค่อยมีบทบาทในครึ่งชั่วโมงแรก แต่โผล่มาปุ๊บก็เช็คบิลลูก 3-0 ปั๊บ แล้วจากนั้นครึ่งหลังก็หายอีกเหมือนเดิม
บูกาโย่ ซาก้า – 6
มีครึ่งแรกที่ออกจะเงียบๆ ได้เล่นกับลูกไม่มากนัก แต่ถึงแม้จะไม่ได้ทำอะไร สกอร์ก็ถ่างกระจายแล้ว 3-0 ส่วนครึ่งหลังมีบทบาทมากขึ้น ได้โอกาสส่องถนัดถนี่บางหน แต่ไม่มีสกอร์
สำรอง
กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ (แทน ทรอสซาร์ น.59) – 6
ไม่ได้มีโอกาสวาดลวดลายอะไรมาก คงถือเป็นเกมไม่ซีเรียสที่ลงไปแค่วิ่งๆ ให้เหงื่อออก แล้วกลับบ้านนอนฝันดี
คีแรน เทียร์นี่ย์ (แทน ซินเชนโก้ น.73) – N/A
รีสส์ เนลสัน (แทน ซาก้า น.73) – N/A
ร็อบ โฮลดิ้ง (แทน กาเบรียล มากัลเยส น.85) – N/A
โธมัส ปาร์เตย์ (แทน จอร์จินโญ่ น.86) – N/A
คะแนนนักเตะเชลซี
เคปา อาร์ริซาบาลาก้า – 5
ต้องทำงานหนักตั้งแต่ต้น เซฟลูกชาร์จของ ชาก้า ต่อด้วยลูกโหม่งเกือบเข้าของ ซาก้า แต่โอกาสหน 3 และ 4 จาก โอเดการ์ด ก็ยากเกินไปที่จะป้องกันไหว
เบน ชิลเวลล์ – 5
เจองานหนักตลอดเกมด้วยต้องดวลกับตัวจี๊ดอย่าง บูกาโย่ ซาก้า แต่ก็ยังหาโอกาสแลบขึ้นไปเติมเกมบุกเป็นระยะ เกือบยิงได้ด้วยในนาที 25 แต่ไม่ผ่านเซฟสวยๆ ของ แรมส์เดล
ติอาโก้ ซิลวา – 5
คอยออกบอลจากแนวลึกสุด แต่การยืนตำแหน่งดูมีปัญหา โดยเฉพาะลูก 2-0 ที่คุม โอเดการ์ด ไม่อยู่ ช็อตเซฟสำคัญหนเดียวคือสกัดลูกโหม่งของ กาเบรียล มากัลเยส ต้นครึ่งหลัง พ้นไปบนเส้นประตู
เวสลี่ย์ โฟฟาน่า – 5
ช่วงแรกๆ ยังยืนตำแหน่งได้ดีไม่มีปล่อยหลุด แต่เสียสมาธิแวบเดียวก็โดนแล้ว 2-0 ซึ่งเมื่อขึ้นเม็ดสองแล้ว เชลซี ก็กลับมายากทันที
เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า – 4
ลงตัวจริงอีกครั้งเมื่อ รีซ เจมส์ ปิดเทอมไปเรียบร้อย โดยเกือบทำหมูหกตั้งแต่ 4 นาทีแรกที่โหม่งคืนประตูไม่ดี ยังดีที่ กรานิต ชาก้า ยิงไม่ผ่านบล็อก เคปา จากนั้นก็เล่นพลาดในลูก 3-0 แสดงถึงฟอร์มหลุดๆ จนแทบจะเป็นบ่อน้ำมันให้คู่แข่งตักตวง
มาเตโอ โควาซิช – 5
ยืนตำแหน่งไม่ดีจน โอเดการ์ด ได้ซัดโล่งๆ ในประตูนำ 1-0 เช่นเดียวกับช่วยอะไรไม่ได้ในอีก 2 ประตูถัดมา โดยรวมเป็นอีกเกมที่น่าผิดหวัง จนเริ่มจะมีคำถามดังขึ้นเรื่อยๆ แล้วว่า เล่นร่วมกับ เอ็นโซ เฟร์นานเดซ ได้จริงๆ ใช่ไหม
เอ็นโซ เฟร์นานเดซ – 4
เงียบมากในครึ่งแรก ได้สัมผัสบอลนับครั้งได้ ต้องพยายามไล่ตัดเกมมากกว่า แต่ถึงอย่างนั้นก็ช่วยเกมรับไม่ได้เลยในทั้ง 3 ประตูแรกที่เสียไป
เอ็นโกโล่ ก็องเต้ – 4
ไม่ใช่เกมที่ดีเมื่อมีจังหวะเล่นพลาด จ่ายติดขัดจ่ายไม่ตรงให้เห็น และการยืนตำแหน่งก็แปร่งๆ จะรับก็ไม่ จะรุกก็ไม่ และดูว่าไม่ได้ถูกสั่งให้มาตามประกบ โอเดการ์ด จนโดนกัปตันปืนส่องเบิ้ล 2 เม็ดเข้าให้
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง – 4
ถูกวางเป็นตัวริมเส้น (ปีกซ้าย) ของถนัดอีกครั้ง หลังถูกจับไปยืนหน้าเป้ามานานแสนนานก่อนหน้านี้ และมีจังหวะลากเลื้อยวูบวาบอยู่บ้าง แต่ไม่เนี้ยบในบอลสุดท้ายจนทำอันตราย เบน ไวท์ ไม่ได้เท่าที่ควร ครั้นถอยไปช่วยเกมรับก็ยืนเหม่อจนเสียลูก 2-0
ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง – 3
ได้กลับลงตัวจริงหนแรกนับตั้งแต่ พ.ย. ปี่ที่แล้ว โดยได้ยืนตำแหน่งหอกเป้าเผชิญหน้ากับทีมเก่าโดยตรง กระนั้นก็เงียบสนิทในครึ่งแรกที่ เชลซี แทบไม่ได้บุกตอบโต้ และถูกเปลี่ยนออกเร็วเมื่อเริ่มครึ่งหลัง
โนนี่ มาดูเอเก้ – 7
ออกสตาร์ทตัวจริงอย่างเซอร์ไพรส์ที่ตำแหน่งปีกขวา แต่ต้องถอยร่นไปช่วยเกมรับซะเยอะ นานๆ ถึงจะได้ลุยขึ้นมาสักที แต่เมื่อได้เล่นเกมรุกแล้วก็ถือว่ามีสีสันวูบวาบดี และทะลุเข้าไปยิงแฉลบตีไข่แตก 1-3 กลางครึ่งหลัง
สำรอง
ไค ฮาแวร์ตซ์ (แทน โอบาเมย็อง น.46) – 4
เป็นสำรองตัวเลือกแรก (ที่น่าแปลกใจเหมือนกันว่า แลมพาร์ด เลือกปรับตรงนี้ ทั้งที่เกมเป็นรองสุดกู่) ลงไปยืนหน้าเป้าแทน แต่แทบไม่มีโอกาสสัมผัสลูกเลย เมื่อเกมครึ่งหลังยังเป็น อาร์เซน่อล คุมไว้หมดทุกอย่าง
คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ (แทน เอ็นโซ เฟร์นานเดซ น.71) – N/A
มิไคโล มูดริค (แทน สเตอร์ลิ่ง น.71) – N/A
ฮาคิม ซีเย็ค (แทน มาดูเอเก้ น.79) – N/A
เทรโวห์ ชาโลบาห์ (แทน โฟฟาน่า น.86) – N/A
มุมแสดงทรรศนะ