จิ้งจอกแชมป์! เลสเตอร์ กดโทษเฉือน แมนซิตี้ 1-0 คว้าโล่การกุศลในรอบ 50 ปี
เลสเตอร์ ซิตี้ เบียดเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 จากจุดโทษประตูชัยช่วงท้ายเกมของ เคลิชี่ อิเฮียนาโช่ ครองโล่ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2021 ไปครอง และเป็นแชมป์ฟุตบอลรายการกุศลก่อนเปิดฤดูกาลใหม่ลีกสูงสุดอังกฤษสมัยที่ 2 ต่อจากครั้งแรกเมื่อ 50 ปีก่อน
ฟุตบอลชิงโล่การกุศลก่อนเปิดฤดูกาล 2021-22 ของลีกสูงสุดอังกฤษ ในชื่อรายการ “เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2021” ที่สนามเวมบลีย์ ในกรุงลอนดอน วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม 2564 เป็นเกมระหว่างสองทีมแชมป์บอลลีก และบอลถ้วย จากฤดูกาลที่แล้ว อย่าง “สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ เจ้าของแชมป์ เอฟเอ คัพ พบกับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์ พรีเมียร์ ลีก โดยเกมนี้กุนซือเรือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ส่งชื่อ แจ็ค กรีลิช นักเตะใหม่ค่าตัว 100 ล้านปอนด์ แพงสุดของอังกฤษจาก แอสตัน วิลลา เป็นตัวสำรอง ในขณะที่ เลสเตอร์ ของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส แกนหลักยังเป็นชุดเดิมจากฤดูกาลที่แล้ว สถติการพบกัน 5 นัดล่าสุดของสองทีมใน พรีเมียร์ ลีก ปรากฏว่า แมนฯ ซิตี้ เอาชนะได้ถึง 4 ครั้ง แต่นัดเดียวที่ เลสเตอร์ ชนะได้คือการเล่นในบ้านของ “เรือใบสีฟ้า” ฤดูกาลที่แล้วที่พ่ายยับเยินต่อ เลสเตอร์ คาบ้าน 2-5
เริ่มเกมการแข่งขัน “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ เขี่ยบอลเริ่มเล่นอาศัยทีมเวิร์คที่ดูเหนือกว่าเปิดเกมรุกได้ก่อน แต่ยังไม่สามารถพาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษได้ เกมมาถึงนาทีที่ 17 เลสเตอร์ มีลุ้นแบบจะแจ้งครั้งแรก เมื่อ เจมี วาร์ดี้ กองหน้าตัวเก่งมีจังหวะซัด แต่ สเตฟเฟ่น นายด่าน “เรือใบสีฟ้า” ปัดออกหลังไปได้ ชื่อชั้นเป็นรองแต่รูปเกมของ “จิ้งจอกสยาม” กลับได้ลุ้นกว่าโดยเฉพาะการลุยของ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ นักเตะทีมชาติอังกฤษที่กลับมาฟิตเต็มตัว นาทีที่ 45 โอกาสทอง เลสเตอร์ มาจะแจ้งอีกครั้ง เมื่อ บาร์นส์ ได้บอลทางซ้ายปาดเข้าในให้ วาร์ดี ซัดด้วยซ้าย สเตฟเฟ่น ปัดด้วยปลายมือบอลไปชนเสากระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย หมดครึ่งแรกเสมอ 0-0 โดยที่ เลสเตอร์ มีโอกาสยิงถึง 4 ครั้ง ในขณะที่ แมนฯ ซิตี้ มีแค่ครั้งเดียว
ครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี้ แก้เกมด้วยการบีบพื้นที่ขึ้นสูงและพยายามเข้าบอลประชิดตัวทำให้เกมสูสีดุเดือดมากขึ้น แต่ยังไม่มีโอกาสเข้าทำมากนัก นาทีที่ 58 โอากาสของ แมนฯ ซิตี้ มาถึงบ้าง ในจังหวะที่ เลสเตอร์ ได้เตะมุม แต่ถูกแนวรับสาดยาวไปให้ ริยาด มาห์เรซ เด็กเก่า “จิ้งจอกสยาม” หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล แต่ มาห์เรซ ซัดด้วยซ้ายไม่เข้ากรอบเสมอจึงยังอยู่ที่ 0-0
เกมมาถึงนาทีที่ 65 กองเชียร์ “เรือใบสีฟ้า” ปรบมือกึกก้อง เมื่อ เป๊บ ส่งนักเตะร้อยล้าน แจ็ค กรีลิช สวมเสื้อหมายเลข 10 ลงมาเล่นรุกแทน ซามูเอล เอดูซี่ ในขณะที่ เลสเตอร์ ปรับแนวรุกโดยเอา เจมี่ วาร์ดี้ ออกให้ แพตสัน ดาก้า กองหน้าดาวรุ่งตัวใหม่จาก ซัลบวร์ก ลงสนามแทน เกมถึงตอนนี้กลายเป็น แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสทำเกมรุกได้มากกว่าแต่ยังไม่มีโอกาสที่ชัดเจน ในขณะที่ แจ็ค กรีลิช ที่มาซ้อมกับทีมได้วันเดียวยังไม่มีโอกาสมากนัก
GOAL นาที 89 เลสเตอร์ มาได้จุดโทษในจังหวะที่ นาธาน อาเก้ ไปเตะ เคเลซี่ อิเฮียนาโช่ นักเตะสำรองที่เปลี่ยนตัวมาในครึ่งหลัง ก่อน อิเฮียนาโช่ รับหน้าที่สังหารซัดเต็มข้อบอลเสียบเสาสอบเข้าไปให้ เลสเตอร์ นำ 1-0 หลังเสียประตูช่วงท้าย “เรือใบสีฟ้า” พยายามเอาคืนแต่ไม่ทัน หมดเวลา “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ เฉือนชนะ 1-0 คว้าแชมป์ “คอมมิวนิตี้ ชิลด์” เป็นสมัยที่ 2
ผู้เล่นตัวจริง เลสเตอร์ ซิตี้ (ระบบการเล่น 3-4-1-2) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล (ผู้รักษาประตู / กัปตันทีม) – ริคาร์โด้ เปเรยร่า, แดเนียล อามาร์ตีย์, ชากลาร์ โซยุนชู – ไรอัน เบอร์ทรานด์, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, ยูริ ตีเลอมันส์, อโยเซ่ เปเรซ – เจมส์ แมดดิสัน – ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์, เจมี่ วาร์ดี้
ผู้เล่นตัวจริง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ระบบการเล่น 4-3-3) : แซ็ค สเตฟเฟ่น (ผู้รักษาประตู) – ชูเอา กานเซโล่, รูเบน ดิอาส, นาธาน อาเก้, เบนฌาแม็ง เมนดี้ – แฟร์นันดินโญ่, อิลคาย กุนโดกัน (กัปตันทีม), โคล พัลเมอร์ – ริยาด มาห์เรซ, แซม เอโดซี่, เฟร์ราน ตอร์เรส
มุมแสดงทรรศนะ