ช้างศึกส่ง”ธีรศิลป์ผนึกธนวัฒน์”ทำทัพเปิดหัวซูซูกิคัพดวลติมอร์ เลสเต
ทีมชาติไทย จัดเต็มเตรียมขนทัพใหญ่เต็มอัตราศึก หวังประเดิม 3 แต้มเอาฤกษ์เอาชัย นำโดย ธีรศิลป์ แดงดา หัวหอกเบอร์หนึ่งของเมืองไทย เช่นเดียวกับ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร ที่พร้อมช่วยทีมเช่นกัน ขณะที่ “มาโน่ โพลกิ้ง” อาจส่ง โจนาธาน เข็มดี ประเดิมทีมชุดใหญ่ครั้งแรก จับคู่กับ มานูเอล ทอมเบียรห์ ด้านผู้รักษาประตูคาดใช้ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ลงเฝ้าเสาก่อน ด้านติมอร์ เลสเต ชุดที่ไร้แข้งโอนสัญชาติ ไม่เกรงกลัวศักดิ์ศรี โดยเฮดโค้ชใหญ่ “ฟาบิโอ มาเกร่า” ที่เคยค้าแข้งลีกไทย พร้อมส่งนักเตะที่ดีสุดลงต่อกร นำทัพโดย รูฟิโน กาม่า กองหน้าตัวเก่ง, เจา เปโดร ช่อง 7 HDยิงสดให้แฟนบอลได้รับชมเวลาไทย 16.30 น.
ติมอร์ เลสเต พบ ทีมชาติไทย
การแข่งขันฟุตบอล “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020” รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ นัดแรก ประจำวันอาทิตย์ที่ 5 ธ.ค.64 ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ เวลา 16.30 น. ตามเวลาประเทศไทย เป็นเกมคู่ระหว่าง ทีมชาติติมอร์ เลสเต พบกับ ทีมชาติไทย โดยแฟนบอลสามารถติดตามการถ่ายทอดสดทางช่อง 7 HD
ความพร้อมของติมอร์ เลสเต ภายใต้การคุมทัพของ “ฟาบิโอ มาเกร่า” กุนซือชาวบราซิลวัย 44 ปี อดีตกองหลังสโมสรบางกอกกล๊าส เอฟซี และ ศรีสะเกษ เอฟซี โดยในศึกชิงแชมป์อาเซียนหนนี้เป็นการลงเล่นรอบแบ่งกลุ่มหนที่ 3 ของติมอร์ เลสเต หลังจากก่อนหน้านี้เคยลงสัมผัสมาแล้ว 2 ครั้งในปี 2004 และปี 2018
โดยขุมกำลังของติมอร์ เลสเต ชุดนี้ไม่มีผู้เล่นโอนสัญชาติ ซึ่งจะใช้ผู้เล่นท้องถิ่นทั้งหมด อีกทั้งผู้เล่นส่วนใหญ่มาจากสโมสรชั้นนำอย่าง ลาเลนอค, เบาวิสตา โดยเกมนี้เฮดโค้ชชาวบราซิเลี่ยน แม้ว่าทีมจะเป็นรองแต่พร้อมส่งชุดที่ดีที่สุดลงสนามแน่นอน นำทัพโดย รูฟิโน กาม่า กองหน้าดาวยิงทีมชาติวัย 23 ปี ของสโมสรลาเลนอค ที่ติดทีมชาติชุดใหญ่ตั้งแต่วัย 18 ปี และรับใช้ทีมชาติไป 18 เกม ยิงไป 7 ประตู
นอกจากนี้ยังมี เจา เปโดร แนวรุกวัย 21 ปี นักเตะหนึ่งเดียวที่มีชื่อออกไปเล่นต่างแดนให้กับสโมสร UiTM ในมาเลเซีย และอดีตแข้งรายนี้เคยมาร่วมทีม ม.นอร์ธกรุงเทพ ในศึกฟุตบอลลีกล่างของประเทศไทยในปี 2019-20 เช่นเดียวกับ เปาโล กาลี กองกลางสโมสรลาเลนอค ที่เคยถูกอินโดนีเซียพาดพิงว่าอายุเกินในศึก ยู-15 ชิงแชมป์อาเซียน 2019 ซึ่งอายุจริงที่ลงเล่นในเวลานั้นมีอายุ 22 ปี จนนำไปซึ่งการสืบสวนของฝ่ายจัดการแข่งขัน พร้อมออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมนี้เช่นกัน
ขณะที่ทางฝั่งทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย เจ้าของแชมป์รายการนี้มากที่สุด 5 สมัย ที่มี “มาโน่ โพลกิ้ง” คุมทัพ และมี “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ เป็นผู้จัดการทีม เกมนี้เป้าหมายเดียวคือการเก็บ 3 แต้มแรกเอาฤกษ์เอาชัย แม้จะยังขาด 2 แกนหลักจากเจลีก ประเทศญี่ปุ่นอย่าง “กัปตันเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ รวมทั้ง “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน ที่จะตามสมทบทีมในวันที่ 6 ธ.ค.64 แต่ก็ไม่มีปัญหาในเรื่องของการจัดทัพแต่อย่างใด
โดยตลอด 3 วันที่ได้ลงฝึกซ้อมที่ประเทศสิงคโปร์ บวกกับการใส่ระบบ และแท็กติกของ “มาโน่ โพลกิ้ง” ที่ออกมาให้สัมภาษณ์แล้วว่าแต่ละคนฟิตพร้อมเต็มสูบกับเกมนัดแรก คาดว่าแม้จะยังขาด 2 สตาร์หลัก แต่คนอื่นเป็นผู้เล่นที่มีคุณภาพทั้งหมด และพร้อมลงสนามกันทุกคนอย่างแน่นอน
สำหรับ 11 ผู้เล่นทีมชาติไทย ที่คาดว่าจะลงสนามพบกับ ติมอร์ เลสเต จะมาในระบบ 4-2-3-1 หรือ 4-3-2-1 ประกอบด้วย รองกัปตันทีม ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (ผู้รักษาประตู), มานูเอล ทอมเบียรห์, โจนาธาน เข็มดี, ทริสตอง โด, สุริยา สิงห์มุ้ย, สารัช อยู่เย็น, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร, สุภโชค สารชาติ, ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, ธีรศิลป์ แดงดา
ขณะที่สถิติการเจอกันในรายการนี้ เคยพบกัน 1 ครั้งในปี 2018 เมื่อวันที่ 9 พ.ย.61 ผลปรากฏว่า ติมอร์ เลสเต ที่ใช้สนามราชมังคลากีฬาสถาน เป็นรังเหย้า เปิดบ้านแพ้ ทีมชาติไทย 0-7 โดย อดิศักดิ์ ไกรษร เหมาคนเดียว 6 ประตู ส่วนอีกลูกเป็นของ ศุภชัย ใจเด็ด ที่ยิงประตูปิดกล่องในช่วงทดเจ็บท้ายเกม
สำหรับโปรแกรมของกลุ่ม เอ นัดแรก มีลงเตะอีก 1 คู่ในวันเดียวกัน ระหว่าง เจ้าภาพสิงคโปร์ พบกับ เมียนมา โดยจะแข่งกันในเวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
มุมแสดงทรรศนะ