ซาวิชตัวเปิด! เผยรายละเอียดเหตุวิวาทแข้งหมี-เรือหลังซาวิชไฝว้สเตอร์ลิ่ง-กรีลิช
ทั้งโหม่งทั้งทึ้ง! เผยรายละเอียดเหตุการณ์ตะลุมบอนระหว่างผู้เล่นแอตเลติโก้ มาดริด กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ระหว่างเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนที่ผ่านมา ที่เริ่มต้นขึ้นจากสเตฟาน ซาวิช เซ็นเตอร์แบ็คของทัพตราหมี
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่าพรีเมียร์ ลีก ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจากเสมอแบบไร้สกอร์ที่สนามว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่ เมื่อคืนที่ผ่านมา (พุธที่ 13 เมษายน 2565) โดยที่เลกแรกพวกเขาชนะมา 1-0 อย่างไรก็ตาม เกมนี้กลับถูกบดบังด้วยเหตุชุลมุนวุ่นวายในช่วงท้ายเกมที่เริ่มต้นขึ้นจากผู้เล่นแอตเลติโก้ มาดริด จนนักเตะสองทีมปะทะเดือดในสนามลามไปถึงอุโมงค์ทางเดิน
เหตุครั้งนี้เริ่มต้นจากการที่ ฟิล โฟเด้น โดนเฟลิเป้ทำฟาล์วในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทำให้แข้งตราหมีโดนใบเหลืองแดงไล่ออกจากสนาม แต่สเตฟาน ซาวิช รู้สึกว่านักเตะทีมชาติอังกฤษกำลังถ่วงเวลาจึงได้ตะโกนใส่หน้าเขาก่อนที่จะพยายามลากเขาให้ลุกขึ้นมา เลยกระตุ้นให้ผู้เล่นแมนฯ ซิตี้คนอื่นๆ รีบเข้ามาปกป้องเพื่อนร่วมทีมของพวกเขา การทะเลาะวิวาทครั้งนี้มีผู้เล่นประมาณ 20 คนเข้ามาตะลุมบอนกัน
จากนั้นซาวิชก็เริ่มเข้าไปโต้เถียงกับราฮีม สเตอร์ลิ่ง โดยเอาหัวโขกกองหน้าเรือใบสีฟ้าก่อนที่จะไปมีปากเสียงกับแจ็ค กรีลิช อย่างดุเดือด จากนั้นซาวิชก็ทึ้งผมของกรีลิช ทำให้เขาได้ใบเหลืองจากการกระทำดังกล่าว แต่เหตุการณ์ไม่ได้จบแค่ตรงนั้น เพราะหลังสิ้นเสียงนกหวีดหมดเวลาการแข่งขัน ซาวิช ก็ไปตามล่าหากรีลิชในอุโมงค์ทางเดินของสนามว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่ ก่อนที่จะเผชิญหน้ากับเขาจนตำรวจต้องเข้ามาห้ามทัพ ทั้งนี้ซาวิชเคยมีปัญหากับกรีลิชมาก่อนในเลกแรกที่เอติฮัด เมื่อไปกระตุกผมของกรีลิชด้วยอารมณ์หงุดหงิดระหว่างเกม นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ามีแฟนๆ ปาขวดมายังเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในช่วงที่เขากำลังเดินออกจากสนามอีกด้วย
นอกจากผู้เล่นในสนามแล้ว ซิเม่ เวอร์ซัลจ์โก้ ซึ่งเป็นตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้งานในเกมนี้ก็ยังมีส่วนร่วมกับเหตุวิวาทในครั้งนี้ โดยทางสถานีโทรทัศน์ของฝรั่งเศสอย่าง RMC Sport ได้แพร่ภาพวิดีโอจากอุโมงค์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากรีลิชและซาวิชยังคงทำสงครามน้ำลายกันต่อ ก่อนที่การทะเลาะวิวาทครั้งยิ่งใหญ่จะเริ่มต้นขึ้น ผู้เล่นทั้งสองทีมยังคงเผชิญหน้ากันต่อที่ทางเข้าอุโมงค์หลังการแข่งขัน ทั้งนี้ตรงทางเข้าอุโมงค์ตอนแรกดูเหมือนว่า เวอร์ซัลจ์โก้ จะโต้เถียงกับสตาฟฟ์ของเรือใบสีฟ้าและถูกห้ามเอาไว้โดยเจ้าหน้าที่ของทางแอต.มาดริด ทางด้านไคล์ วอล์คเกอร์ ก็ต้องถูกเพื่อนร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลากตัวออกไป หลังไปเผชิญหน้าอย่างดุเดือดในอุโมงค์กับเวอร์ซัลจ์โก้เช่นกัน
จากนั้นสิ่งต่างๆ ก็ดูน่าเกลียดมากเมื่อเวอร์ซัลจ์โก้ปาเสื้อวอร์มของเขาใส่ผู้เล่นและสตาฟฟ์ของแมนฯ ซิตี้ ซึ่งรวมถึง อายเมอริก ลาปอร์ท และ อิลคาย กุนโดกัน และนั่นทำให้วอล์คเกอร์ซึ่งเดินกลับไปไกลแล้ววิ่งเข้ามามีส่วนร่วม ไม่ชัดเจนว่าตอนแรกนั้นเวอร์ซัลจ์โก้โกรธใครก่อน แต่ทันใดนั้นเขาก็พุ่งไปที่วอล์คเกอร์คนเดียว โดยหลังจากสลัดหลุดจากผู้ตัดสินและสตาฟฟ์ที่พยายามรั้งเขาไว้ได้แล้วเขาก็พุ่งเข้าหาวอล์คเกอร์และดูเหมือนว่าจะพยายามเอาหัวโขกเขาแม้ทั้งสองจะอยู่ห่างกันหลายฟุตก็ตาม
ปราการหลังแมนฯ ซิตี้ โดนรั้งเอาไว้และจากนั้นก็ถูกลากออกไปโดยลาปอร์ทและเอแดร์ซอน ในขณะที่เวอร์ซัลจ์โก้พยายามที่จะดิ้นให้หลุดจากเพื่อนร่วมทีมที่รั้งเขาไม่ให้เข้าไปหาวอล์คเกอร์ซึ่งในที่สุดก็สามารถยับยั้งเหตุที่อาจบานปลายได้ ผู้เล่นทุกคนก็ถูกพาไปยังห้องแต่งตัวของพวกเขา โดยต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายอยู่ในอุโมงค์คอยระงับเหตุการณ์วุ่นวายดังกล่าวที่คาดว่าแอตเลติโก้ มาดริด จะต้องถูกปรับอย่างหนักจากยูฟ่าจากเรื่องนี้
Did Felipe deserve a red card for this challenge against Foden? ?#UCL pic.twitter.com/c2Hk9kxt20
— Wyngback Soccer ⚽️ (@wyngback) April 13, 2022
Sime Vrsaljko making a right fool of himself in the tunnel after the #ATMMCI game tonight.pic.twitter.com/TCFVIyVBL4
— Peter Clennell (@ClennellPeter) April 13, 2022
This is what happened in the tunnel after the game.
— BRGoals (@BRGoals) April 13, 2022
Tunnel cam pic.twitter.com/QTEhM62uSQ
— Football Fights (@footbalIfights) April 13, 2022
มุมแสดงทรรศนะ