รวมเหตุการณ์สุดสำคัญของวงการลูกหนัง ปี 2019

  เข้าสู่ปี 2020 เราได้ทำการรวบรวมหลากหลายเรื่องราวที่โดดเด่น และน่าสนใจตลอดทั้งปี 2019 ที่เกิดขึ้นในวงการฟุตบอลต่างประเทศ มาให้แฟนบอลได้ชมกัน

        มกราคม :

– เกิดข่าวเศร้ากับวงการลูกหนังอีกครั้งเมื่อ เอมิเลียโน่ ซาล่า ที่เพิ่งย้ายจาก น็องต์ ไปร่วมทัพ คาร์ดิฟฟ์ ด้วยค่าตัวสถิติใหม่ของสโมสร 15 ล้านปอนด์ เคราะห์ร้ายเกิดประสบเหตุเครื่องบินตกทะเล และหายตัวไปในช่องแคบอังกฤษพร้อมกับ เดวิด อิ๊บบ็อทสัน นักบิน

 

        กุมภาพันธ์ :

– ศึก คาราบาว คัพ นัดชิงชนะเลิศต้องตัดสินกันด้วยการดวลจุดโทษหลังเสมอกัน 0-0 ใน 120 นาที และเป็น แมนซิตี้ ที่แม่นกว่า เชลซี เอาชนะไปได้ 4-3 เรือใบสีฟ้า คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน

 

        เมษายน :

– ยูเวนตุส คว้าแชมป์ สคูเด็ตโต้ ไปครองได้เป็นที่เรียบร้อย หลังจากเก็บชัยชนะเหนือ ฟิออเรนติน่า 2-1 โดยเป็นการคว้าแชมป์ลีกเป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน

 

– เจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลน่า จัดการคว้าแชมป์ ลา ลีกา สมัยที่ 26 มาครองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากเปิด คัมป์ นู เอาชนะ เลบันเต้ แบบนิ่ม ๆ 1-0

 

– เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังตัวเทพของ ลิเวอร์พูล ได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของ PFA ไปตามความคาดหมาย

 

        พฤษภาคม :

– แมนซิตี้ ป้องกันแชมป์ พรีเมียร์ลีก ไว้ได้สำเร็จหลังบุกชนะ ไบรท์ตัน 4-1 ดับความฝันของ ลิเวอร์พูล ที่จะคว้าแชมป์ลีกในรอบ 30 ปี ด้วยคะแนนที่เหนือกว่า “หงส์แดง” เพียง 1 แต้ม

 

– ลาซิโอ ผงาดคว้าแชมป์ โคปปา อิตาเลีย ฤดูกาล 2018-19 ไปครองได้สำเร็จ หลังจากกำชัยเหนือ อตาลันต้า ไปได้ 2-0 ในเกมนัดชิงชนะเลิศ

 

– ฟรองค์ ริเบรี่ กับ อาร์เยน ร็อบเบน อำลา บาเยิร์น ได้อย่างสวยงามหลังซัดคนละตุง ช่วยทีมเอาชนะ แฟรงค์เฟิร์ต ไปได้ 5-1 พร้อมกับซิวแชมป์ บุนเดสลีกา ไปครอง

 

– แมนซิตี้ ไล่ยำใหญ่ วัตฟอร์ด 6-0 ซิวแชมป์ เอฟเอ คัพ ไปครอง และถือเป็นแชมป์ที่ 3 ในฤดูกาลนี้ของ เรือใบสีฟ้า ต่อจาก ลีก คัพ และ พรีเมียร์ลีก

 

– โกปา เดล เรย์ นัดชิงชนะเลิศ บาเลนเซีย งัดทีเด็ดล้มยักษ์ใหญ่อย่าง บาร์เซโลน่า 2-1 ผงาดคว้าแชมป์ไปครองในรอบ 11 ปี

 

– เดเอฟเบ โพคาล นัดชิงชนะเลิศ บาเยิร์น มิวนิค เอาชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก ไปแบบไม่ยากเย็น 3-0 ซิวแชมป์รายการนี้ไปครองเป็นสมัยที่ 19

 

– เชลซี ถล่มคู่ปรับร่วมกรุงลอนดอนอย่าง อาร์เซน่อล 4-1 คว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ไปครองเป็นสมัยที่ 2 หลังจากเคยทำได้มาแล้วเมื่อฤดูกาล 2012-13

 

        มิถุนายน :

– หงส์แดง ลิเวอร์พูล ปิดฉากซีซั่น 2018-19 ด้วยความสุขสมหวังหลังเอาชนะ สเปอร์ส 2-0 ในเกมชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก คว้าแชมป์ยุโรปไปครองเป็นสมัยที่ 6

 

– เรอัล มาดริด ประกาศยืนยันในการคว้า เอแด็น อาซาร์ จากสโมสร เชลซี ไปร่วมทัพด้วยค่าตัวราว 88 ล้านปอนด์ และอาจจะเพิ่มสูงขึ้นอีก 42 ล้านปอนด์ ตามเงื่อนไข และโบนัสที่ตกลงกันไว้

 

– ยูเวนตุส ประกาศอย่างเป็นทางการว่า เมาริซิโอ ซาร์รี่ คือกุนซือคนใหม่ที่จะคุมทีมสู้ศึก เซเรีย อา ในฤดูกาล 2019-20 และได้เซ็นสัญญาร่วมทัพ “ม้าลาย” เป็นเวลา 3 ปีด้วยกัน โดย ยูเว่ จะต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับ เชลซี ราว 5 ล้านปอนด์ สำหรับการดึงตัว ซาร์รี่ ไปคุมทัพ

 

        กรกฎาคม :

– เชลซี ทำการแต่งตั้ง แฟรงค์ แลมพาร์ด ขึ้นเป็นกุนซือคนใหม่ของทีม โดยอดีตกองกลางดาวซัลโวสูงสุดของทีมจรดปากกาเซ็นสัญญา 3 ปีคุมทัพ “สิงห์บลูส์”

 

– บราซิล ผงาดขึ้นครองแชมป์ โคปา อเมริกา สมัย 9 หลังจัดการอัด เปรู ในนัดชิงชนะเลิศไป 3-1

 

– บาร์เซโลนา เปิดตัว อ็องตวน กรีซมันน์ ร่วมทัพหลังทุ่มเงิน 120 ล้านยูโรจ่ายให้กับ แอต.มาดริด ส่วน “ตราหมี” ก็คว้า เจา เฟลิกซ์ จาก เบนฟิก้า มาแทนที่ด้วยค่าตัวทุบสถิติสโมสร 126 ล้านยูโร

 

        สิงหาคม :

– แมนยู ประกาศคว้าตัว แฮร์รี่ แม็กไกวร์ มาจาก เลสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัวสถิติโลกในตำแหน่งกองหลังที่ 80 ล้านปอนด์

 

– ลิเวอร์พูล เถลิงแชมป์ ซูเปอร์ คัพ สมัยที่ 4 หลังสู้กับ เชลซี ถึงช่วงต่อเวลาพิเศษเสมอกัน 2-2 สุดท้ายต้องตัดสินกันด้วยการดวลจุดโทษ และเป็น “หงส์แดง” ที่เอาชนะ “สิงห์บลูส์” ไปได้ 5-4

 

– อินเตอร์ มิลาน ปิดดีล โรเมลู ลูกากู และ อเล็กซิส ซานเชซ จาก แมนยู โดยคว้า ลูกากู ด้วยค่าตัวราว 75 ล้านปอนด์ ก่อนจะดึง อเล็กซิส ร่วมทัพสมใจด้วยสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล

 

– เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ได้รับการโหวตให้คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมยุโรป ประจำฤดูกาล 2018-19 ไปครองเหนือ ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

 

        กันยายน :

– ลิโอเนล เมสซี่ เอาชนะ เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คว้ารางวัลผู้เล่นแห่งปีของ ฟีฟ่า ไปครอง ในการประกาศรางวัล เดอะ เบสต์ ฟีฟ่า ฟุตบอล อวอร์ด 2019

 

        ตุลาคม :

– ดราม่าของ กรานิต ชาก้า ที่ตอบโต้แฟนบอล อาร์เซนอล ที่โห่ใส่ตนตอนที่ถูกเปลี่ยนตัวออกด้วยการเอามือป้องหูพร้อมสบถคำหยาบออกมา สุดท้ายดาวเตะสวิตก็ถูกยึดปลอกแขนไปตามระเบียบ

 

พฤศจิกายน :

– เกมพรีเมียร์ลีกระหว่าง เอฟเวอร์ตัน และ สเปอร์ส เกิดเหตุการณ์ช็อกแฟนบอลทั่วโลกในจังหวะที่ ซอน เฮือง-มิน เข้าเสียบใส่ อังเดร โกเมส ก่อนไปปะทะ แซร์จ ออริเย่ร์ อีกรอบ ส่งผลให้ มิดฟิลด์ทีมชาติโปรตุเกส ถึงขั้นข้อเท้าหัก

 

– สเตอร์ลิง ปะทะกับ โกเมซ และมีปากเสียงกันในเกมที่ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านอัด แมนซิตี้ 3-1 จนลุกลามถึงแคมป์ ทีมชาติอังกฤษ ถึงขั้นที่ ปีกเรือใบสีฟ้า เข้าไปบีบคอของ กองหลังหงส์แดง

 

– สเปอร์ส ประกาศปลด เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ หลังพาทีมทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง และไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จัดการแต่งตั้ง โชเซ่ มูรินโญ่ เข้ามาคุมทีมแทนด้วยสัญญา 2 ปีครึ่ง

 

– อาร์เซนอล ตัดสินใจปลด อูไน เอเมรี่ ออกจากตำแหน่งนายใหญ่ หลังพาทีมจมอยู่อันดับ 8 ไม่ชนะใครมา 6 นัดติดต่อกัน โดยให้ เฟรดริก ลุงเบิร์ก รับหน้าที่เป็นกุนซือรักษาการ

 

        ธันวาคม :

– ลิโอเนล เมสซี่ เอาชนะ เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค คว้ารางวัล บัลลง ดอร์ 2019 ไปครองตามคาด ถือเป็นการคว้ารางวัลบอลทองคำมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และเป็นสมัยที่ 6 ของดาวแข้งอาร์เจนไตน์

 

– นาโปลี ประกาศปลด คาร์โล อันเชล็อตติ ออกจากตำแหน่ง แม้ว่า กุนซือชาวอิตาลี จะเพิ่งพาทีมเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ก็ตาม ซึ่งหลังจากนั้น “อันเช่” ก็รับงานคุมทัพ เอฟเวอร์ตัน ต่อทันที

 

– ลิเวอร์พูล ประกาศคว้าตัว ทาคูมิ มินามิโนะ มาร่วมทัพอย่างเป็นทางการโดยแข้งวัย 24 ปี ถือว่าเป็นแข้งเอเชียคนแรกที่ได้สวมยูนิฟอร์มของหงส์แดงชุดใหญ่

 

– อาร์เซนอล คอนเฟิร์มผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสโมสรว่า มิเกล อาร์เตต้า คือกุนซือคนใหม่ของพวกเขา หลังดึงตัวมาจาก แมนซิตี้ ด้วยสัญญา 3 ปีครึ่ง

 

– ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฟลาเมงโก้ 1-0 ในศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ นัดชิงชนะเลิศ ทำให้ “หงส์แดง” ผงาดครองแชมป์สโมสรโลกได้เป็นครั้งแรก