วิเคราะห์บอลวันนี้

วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก : แมนฯยู -vs- ลิเวอร์พูล

ufasexygame


วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก : แมนฯยู (20) -vs- ลิเวอร์พูล (15)
สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
เวลา : 02.00 น.
ราคาบอล : ลิเวอร์พูล ต่อ 1.0(-5)

ผลการพบกันของทั้งสองทีม

12/07/22 แมนฯยู ชนะ ลิเวอร์พูล 4-0 / (กลาง) กระชับมิตร
20/04/22 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯยู 4-0
24/10/21 แมนฯยู แพ้ ลิเวอร์พูล 0-5
14/05/21 แมนฯยู แพ้ ลิเวอร์พูล 2-4
25/01/21 แมนฯยู ชนะ ลิเวอร์พูล 3-2 / เอฟเอ คัพ
18/01/21 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนฯยู 0-0
20/01/20 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯยู 2-0
20/10/19 แมนฯยู เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1
24/02/19 แมนฯยู เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0
16/12/18 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯยู 3-1

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

แมนฯยู
14/08/22 แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 0-4 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 0.75 … เสีย
07/08/22 แพ้ ไบรท์ตันฯ 1-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 0.75 … เสีย
31/07/22 เสมอ ราโย บาเยกาโน่ 1-1 (เหย้า) กระชับมิตร / ต่อ 1.25 … เสีย
30/07/22 แพ้ แอตฯ มาดริด 0-1 (กลาง) กระชับมิตร / ต่อ 0.5 … เสีย
23/07/22 เสมอ แอสตัน วิลล่า 2-2 (กลาง) กระชับมิตร / ต่อ 1 … เสีย
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 1 ชนะ 0 เสมอ 0 แพ้ 1 ได้ 1 เสีย 2

ลิเวอร์พูล
16/08/22 เสมอ คริสตัล พาเลซ 1-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1.75 … เสีย
06/08/22 เสมอ ฟูแล่ม 2-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1.75 … เสีย
01/08/22 แพ้ สตราส์บูร์ก 0-3 (เหย้า) กระชับมิตร / เสมอ … เสีย
30/07/22 ชนะ แมนฯซิตี้ 1-0 (กลาง) คอมมูนิตี้ ชิลด์ / รอง 0.25 … ได้
28/07/22 แพ้ ซัลซ์บวร์ก 0-1 (เยือน) กระชับมิตร / ต่อ 0.75 … เสีย
เกมเยือนในลีก แข่ง 1 ชนะ 0 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 2 เสีย 2

ฟอร์ม 6 นัดหลังสุดในลีก

แมนฯยู
เหย้า – แข่ง – ชนะ – เสมอ – แพ้ – ได้ – เสีย –
เยือน – แข่ง – ชนะ – เสมอ – แพ้ – ได้ – เสีย –

ลิเวอร์พูล
เหย้า – แข่ง – ชนะ – เสมอ – แพ้ – ได้ – เสีย –
เยือน – แข่ง – ชนะ – เสมอ – แพ้ – ได้ – เสีย –

สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม

แมนฯยู

แมนฯยู ของกุนซือ อีริค เตน ฮาก เพิ่งจะบุกพ่ายให้กับ เบรนท์ฟอร์ด 0-4 ในลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงเตะ ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม นอกเสียจาก อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กับ วิกเตอร์ ลินเดอเลิฟ สองแข้งเดี้ยงหน้าเดิมซึ่งอยู่ในระหว่างพักรักษาตัวทั้งคู่ คาดว่า เตน ฮาก เตรียมวางหมากในระบบการเล่น 4-3-3 โดยมี เจดอน ซานโช่, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าสกอร์และใช้ บรูโน่ แฟร์นานเดส, เฟร็ด กับ คริสเตียน อีริคเซ่น ปักหลักคุมเชิงจากแดนกลางตามระเบียบ

ตัวแบน : –
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองหลัง – วิกเตอร์ ลินเดอเลิฟ (-)
กองหน้า – อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล (-)

แมนฯยู (4-3-3) : ดาบิด เด เกอา – ดิโอโก้ ดาโลต์, ราฟาแอล วาราน, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ไทเรลล์ มาลาเซีย – บรูโน่ แฟร์นานเดส, เฟร็ด, คริสเตียน อีริคเซ่น – เจดอน ซานโช่, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, มาร์คัส แรชฟอร์ด

ลิเวอร์พูล

ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งจะเปิดรังเจ๊า คริสตัล พาเลซ 1-1 ในลีกช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนฟาดแข้ง จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ดาร์วิน นูนเญซ หัวหอกตัวเก่งที่โดนแดงตรงไล่ออกจากแมตช์ดังกล่าว เช่นเดียวกับเหล่าบรรดาแข้งเดี้ยงตามลิสต์ด้านล่างที่อยู่ในระหว่างพักฟื้นทั้งหมด คาดว่า คล็อปป์ เตรียมจัดทัพในระบบการเล่น 4-3-3 โดยมี โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ กับ หลุยส์ ดิอาซ ผนึกกำลังกันล่าตาข่ายในแดนหน้าและใช้ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, ฟาบินโญ่ กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เป็นสามประสานแดนกลางคอยคุมจังหวะจากอยู่หลังตามสูตร

ตัวแบน :
กองหน้า – ดาร์วิน นูนเญซ (2 นัด/1 ประตู)
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองหลัง – อิบราฮิม่า โกนาเต้ (-), โฌแอล มาติป (1 นัด), แคลวิน แรมเซย์ (-)
กองกลาง – เคอร์ติส โจนส์ (-), อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (-), ธิอาโก้ อัลคานตาร่า (1 นัด)
กองหน้า – ดิโอโก้ โชต้า (-)

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์กิล ฟาน ไดย์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, หลุยส์ ดิอาซ

ทรรศนะ

เชื่อว่าปัญหาที่แท้จริงของ แมนฯยู ในยุคนี้ก็คือเกมรับที่ไว้ใจยากเหลือเกิน เพราะสองนัดที่ผ่านมาพวกเขาเสียไปแล้วกว่า 6 ประตู แถมนายทวารมือหนึ่งอย่าง ดาบิด เด เกอา ก็มีลูกผิดพลาดเยอะพอสมควร ฉะนั้นไม่แปลกที่การเผชิญหน้ากับ “หงส์แดง” ในรังเหย้าตัวเองก็ยังเป็นรองหนักขนาดนี้ ส่วนทางด้านเกมรุกของ “ปีศาจแดง” ต้องบอกว่าเกือบจะดีแล้ว แต่ก็ยังขาดในเรื่องทีมเวิร์คและความเข้าใจกัน หากเป็นแบบนี้ไม่แคล้วเสร็จ ลิเวอร์พูล บุกยัดเยียดความปราชัยให้แน่นอน เนื่องจากปัญหาเดียวของผู้มาเยือนมีแค่เกมรับที่เสียสมาธิกันง่ายเกินไป ขณะที่เกมรุกก็ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยความอันตรายและประสิทธิภาพที่สูงอยู่ สำหรับแมตช์ที่ต้องการสามคะแนนปลดล็อคทั้งคู่ มองว่าอาคันตุกะมีลุ้นบุกชนะได้มากกว่าเยอะ ฟันธง! จัดหนัก “หงส์แดง” แรงเอาเรื่อง…!

ต่อ ลิเวอร์พูล 1.0

ฟันธง : “ลิเวอร์พูล ชนะ 3-1”

อัตราความมั่นใจ : 8/10

มุมแสดงทรรศนะ