เก็บตกหลังเกมทิ้งห่าง9แต้ม! ลิเวอร์พูล ยังแรงเปิดบ้านอัด แมนฯ ซิตี้ 2-0 นำจ่าฝูงโด่ง
การแข่งขัน พรีเมียร์ลีก ศึกบิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ ระหว่าง ลิเวอร์พูล พบ แมนซิตี้ ผลปรากฏว่า “หงส์แดง” เป็นฝ่ายคว้าชัยด้วยสกอร์ 2-0
โคดี้ กัคโป ยิงขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 12 จากนั้นเจ้าบ้านหาโอกาสนำห่างหลายต่อหลายครั้ง ก่อนสุดท้าย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มาสังหารจุดโทษปิดจ็อบนาทีที่ 78 ทำให้ ลิเวอร์พูล ซิวชัยพร้อมหนีห่างเป็น 9 คะแนนในตำแหน่งจ่าฝูงแล้ว
ผลการแข่งขันนัดนี้ยังทำให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่สามารถสะกดคำว่าชนะเป็นเกมที่ 7 ติดต่อกันรวมทุกรายการ และยังเป็นการแพ้ 4 นัดรวดในพรีเมียร์ลีกอีกด้วย
นัดนี้มีประเด็นให้พูดถึงมากมาย และต่อไปนี้คือสิ่งที่เรามองเห็นในเกมที่แอนฟิลด์เมื่อคืนที่ผ่านมา
ไม่แปลกใจเลยว่า เป๊ป จะต้องทำการเปลี่ยนแปลงบ้าง หลังจากทีมไร้ชัย 6 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการ ซึ่งรวมถึงการแพ้ 5 นัด แต่ไม่คาดคิดว่ากุนซือชาวสแปนิชจะดร็อปผู้รักษาประตูฝีมือดีและน่าจะสม่ำเสมอที่สุดคนนึงของทีมอย่าง เอแดร์ซอน แล้วให้ สเตฟาน ออร์เตก้า ลงเฝ้าเสาแทนในเกมที่สำคัญแบบนี้
เราไม่เคยกังขาในฝีมือของ ออร์เตก้า อยู่แล้ว แต่มันควรหรือไม่ที่คุณต้องดร็อป เอแดร์ซอน ทั้งที่เขาก็ไม่ได้ผิดพลาดอะไร ที่สำคัญการบิลด์อัพของนายด่านบราซิลก็น่าจะดีกว่าด้วยซ้ำ
ออร์เตก้า มีจังหวะเซฟได้หลายครั้งเหมือนกัน แต่แล้วเขาก็มาพลาดจังหวะรวบ หลุยส์ ดิอาซ ล้มลงจนเสียจุดโทษ ซึ่งนั่นก็โทษเขามากไม่ได้ เพราะคนที่ควรตำหนิจริงควรจะเป็น รูเบน ดิอาส ที่เล่นยากมากกว่า
อีกคนอย่าง ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ก็โดนดร็อปเช่นกัน และไม่ได้ถูกส่งลงสนามด้วย แต่เคสของกองหลังโครแอตเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ เพราะผิดพลาดและผิดฟอร์มแบบเห็น ๆ ตลอดช่วงหลัง ส่วน นาธาน อาเก้ ที่ลงตัวจริงแทนโชว์ฟอร์มได้ดีทีเดียว
มันคือเสียงเชียร์ของแฟนบอลลิเวอร์พูลหลังจบเกม เพื่อแซว เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ซึ่งกุนซือชาวสแปนิชสวนกลับด้วยการชู 6 นิ้วเพื่อตอกย้ำว่า แมนฯ ซิตี้ คือเจ้าของแชมป์พรีเมียร์ลีก 6 สมัย
ถ้าเป็นกุนซือคนอื่นตอนนี้คงเก้าอี้ร้อนไปแล้ว แต่นี่คือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แน่นอนว่าบอร์ดบริหารของ แมนฯ ซิตี้ คงไม่เด้งพ้นตำแหน่งง่าย ๆ อยู่แล้ว
ผลการแข่งขันของ เป๊ป ไม่ได้กระเตื้องขึ้นเลย ที่ไม่น่าเชื่อคือตอนนี้ทีมของเขาไม่ชนะใครมา 7 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการแล้ว และแพ้ถึง 6 นัดเลยทีเดียว
เกมกับ ลิเวอร์พูล พวกเขาก็ไม่ได้เหนือกว่าเลย โดยเฉพาะในครึ่งแรกที่เกือบโดนลูกสองหลายครั้ง แล้วโอกาสยิงครั้งแรกของ “เรือใบสีฟ้า” เกิดขึ้นในนาทีที่ 39 โน่นเลยจากลูกยิงของ ริโก้ ลูอิส ที่ยิงหลุดไปไกล เปรียบเทียบกับ ลิเวอร์พูล ตอนนั้นหาโอกาสยิงไปแล้วถึง 9 ครั้ง
เริ่มครึ่งหลังมา แมนฯ ซิตี้ ดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่มาเสียตรงจังหวะสุดท้าย ส่วน เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ แทบจะหายไปจากเกมเลย หลังโดน เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ตามประกบติด
จบ 90 นาที สถิติกางออกมาว่า แมนฯ ซิตี้ ครองบอลได้มากกว่าที่ 55.9% แต่พวกเขาได้โอกาสยิงเพียง 8 ครั้ง (ตรงกรอบ 2) เท่านั้น เทียบกับ ลิเวอร์พูล ที่ได้ส่องถึง 18 ครั้ง (ตรงกรอบ 7)
การเข้ามาของ อาร์เน่อ สล็อต ช่วยยกระดับผลงานของ ไรอัน กราเฟนเบิร์ค จนทำให้ตอนนี้แฟนบอลลิเวอร์พูลคงไม่อยากได้ มาร์ติน ซูบิเมนดี้ กันแล้ว
อย่างไรก็ตามอีกคนหนึ่งที่ฟอร์มกำลังมาในช่วงหลังก็คือ โคดี้ กัคโป ซึ่งเพิ่งยิงใส่ เรอัล มาดริด เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
หลังจากถูกจับไปเล่นหลายตำแหน่งในแนวรุก รวมถึงถอยไปเล่นเป็นกองกลางด้วยในยุคของ เยอร์เก้น คล็อปป์ แต่พอมายุคของ สล็อต เขาโดนจับไปเล่นปีกซ้ายเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่คุ้นเคยและแจ้งเกิด
กัคโป ที่เปี่ยมด้วยความมั่นใจเอาชนะ ไคล์ วอล์คเกอร์ ได้แทบตลอดทั้งเกม ประตูขึ้นนำก็มาจากสัญชาตญาณ เมื่อวิ่งไปสอดจากเสาสองวางเท้าแปโล่ง ๆ ชนิดที่แนวรับของทีมเยือนมองกันตาปริบ
ซีซั่นนี้ กัคโป ทำไปแล้ว 8 ประตูและ 2 แอสซิสต์จาก 20 เกม ซึ่งหากเขารักษาฟอร์มนี้ไว้ได้ สล็อต คงต้องปวดหัวแน่นอนว่าจะเลือกใครเป็นตัวจริงดีในตำแหน่งนี้ เพราะ หลุยส์ ดิอาซ เองก็แทบจะจองสัมปทานตลอดซีซั่นที่แล้ว ซึ่งเกมนี้ดาวเตะโคลอมเบียถูกจับไปเล่นในหน้าเป้า
แฟนบอลลิเวอร์พูลกังวลไม่น้อยกับการบาดเจ็บของ อิบราฮิมา โคนาเต้ จากเกมเจอ เรอัล มาดริด และก่อนเกมพบ แมนฯ ซิตี้ พวกเขาก็ต่างลุ้นกันว่า สล็อต จะส่งใครจับคู่ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ระหว่าง โจ โกเมซ หรือ จาเรลล์ ควอนซาห์
สุดท้ายเป็นแข้งสารพัดประโยช์อย่าง โกเมซ ได้รับโอกาสลงตัวจริง ซึ่งกองหลังชาวอังกฤษมักจะแสดงตัวเสมอในสถานการณ์สร้างวีรบุรุษแบบนี้
แล้วก็เป็นอย่างที่ว่ากัน โกเมซ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมแทบจะกลมกลืนไปกับ ฟาน ไดจ์ค ต่อเมื่อ ควอนซาห์ ลงมาดาวเตะวัย 27 ปีก็ยังยึดตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คเอาไว้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สล็อต ไว้ใจเขามากขนาดไหน
การอ่านเกมที่ยอดเยี่ยมของเขาทำให้ โกเมซ ไม่จำเป็นต้องไปดวลตัวต่อตัวกับ ฮาแลนด์ มากขนาดนั้น และหากยังรักษาฟอร์มนี้ไว้ได้ ลิเวอร์พูล ก็ไม่ต้องกังวลใจมากนักกับการขาด โคนาเต้
เยอร์เก้น คล็อปป์ สร้างประวัติศาสตร์พา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เป็นสมัยแรกเมื่อฤดูกาล 2019-20
พวกเขาเก็บได้ 37 คะแนน จากการชนะ 12 และเสมอ 1 ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ นำหน้า เลสเตอร์ ซิตี้ และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 8 และ 9 คะแนนตามลำดับ
ปัจจุบัน ลิเวอร์พูล นำห่าง อาร์เซนอล และ เชลซี อยู่ถึง 9 แต้มหลังจากผ่านไป 13 เกม ซึ่งเป็นจำนวนห่างของแต้มที่มากสุดนับตั้งแต่วันสุดท้ายของฤดูกาลที่พวกเขาได้แชมป์ โดยซีซั่นนั้น “หงส์แดง” คว้าแชมป์ด้วยคะแนนห่างถึง 18 แต้ม
ลิเวอร์พูล ในยุคของ สล็อต เล่นแบบไดเรกต์มากขึ้น ตัวเลขบ่งชี้ชัดเจนว่าพวกเขาวางบอลยาวถึง 14.8% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของฤดูกาลก่อนที่ 9.1%
ผลงานอันไร้ที่ติต่อเนื่องจากแมตช์ชนะ เรอัล มาดริด ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อกลางสัปดาห์ ซึ่งตอนนี้ ลิเวอร์พูล ก็นำจ่าฝูงด้วยเช่นกัน แม้ว่าในพรีเมียร์ลีกมันยังไม่ถึงกลางทาง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าหากพวกเขายังรักษาฟอร์มแบบนี้ต่อไป แชมป์สมัยที่ 2 ก็คงไม่ตกไปไหน เพราะทีมที่ตามหลังก็ดันฟอร์มไม่คงเส้นคงวาด้วย
มุมแสดงทรรศนะ