เจ๋งสุดในรอบ 20 ปี! 11 นักเตะดีที่สุดของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ระหว่างปี 2000-2020
เนเธอร์แลนด์ เป็นทีมชาติหนึ่งที่โชคชะตาได้ทำร้ายพวกเขาตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าทัพ ฟลายอิ้งดัตช์แมน จะมีทรัพยากรนักเตะชั้นยอดที่ดีพอจะทำให้พวกเขากรุยทางสู่รอบลึกๆ ในหลายทัวร์นาเมนต์ได้แต่ก็มักจะตกม้าตายในนัดชิงชนะเลิศ กระทั่งอกหักรอบตั้งแต่รอบคัดเลือกพวกเขาก็เคยผ่านมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ทัพ อัศวินสีส้ม เคยมีดีกรีเป็นถึงรองแชมป์ศึก ฟุตบอลโลก 2010 ตามด้วยการคว้าอันดับที่ 3 ในอีก 4 ปีถัดมา เป็นข้อพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีกลุ่มนักเตะชั้นยอดที่พร้อมจะพาทีมสู่ความสำเร็จ ส่วนการตกรอบ เวิลด์คัพ 2018 เราละไว้ในฐานที่เข้าใจแล้วกัน
ในทัวร์นาเมนต์ มินิ-เวิลด์คัพ ที่ 90min เปิดให้ผู้อ่านลงคะแนนเลือกทีมชาติที่ยอดเยี่ยมประชันกันนับเป็นโอกาสที่พวกเขาจะได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งกับทีมชุดที่ยอดเยี่ยมที่สุดใน 2 ทศวรรษที่ผ่านมาโดยมีแข้งชูโรงอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดค์, มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์, จินี ไวนัลดุม ไปจนถึง เฟรงกี้ เดอ ยอง
ผู้รักษาประตูและกองหลัง
(GK) เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์
นายทวารระดับตำนานที่เคยเล่นให้กับ อาแจ็กซ์, ยูเวนตุส, ฟูแลม และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเส้นทางค้าแข้งและติดทัพ กังหันลม ไปถึง 130 นัด น่าเสียดายที่เขาไม่มีโชคในความสำเร็จระดับชาติเมื่อถูกเขี่ยตกรอบจากการดวลลูกจุดโทษ 3 ทัวร์นาเมนต์ติดต่อกันได้แก่ ยูโร 1996, เวิลด์คัพ 1998 และ ยูโร 2000
(RB) มิชาเอล ไรซีเกอร์
แบ็คขวาผู้รับใช้ทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ ราวทศวรรษกับความสำเร็จนับไม่ถ้วยในระดับสโมสรทั้งกับ บาร์เซโลนา และ อาแจ็กซ์ ก่อนที่จะหันหลังให้กับพลพรรค ฟลายอิ้งดัตช์แมน หลังจบศึก ยูโร 2004 กับสถิติการลงสนามทั้งสิ้น 74 เกม
(CB) เวอร์จิล ฟาน ไดค์
เราเชื่อว่าแฟนบอลในยุคนี้เคยชินกับข้อความยกย่องว่า บิ๊กเวิร์จ แห่ง ลิเวอร์พูล เป็นปราการหลังที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก จุดเด่นทั้งความแข็งแกร่ง, ความรวดเร็ว, การอ่านเกม แถมด้วยความเยือกเย็นในการผ่านบอลทำให้เขาถูกเลือกเข้ามาอยู่ในทีมของเราแบบที่แทบไม่ต้องคิด
(CB) ยาป สตัม
เซ็นเตอร์แบ็คที่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งและความดุดันที่น่าสะพรึงสำหรับคู่ต่อสู้ทุกราย
(LB) จิโอวานนี ฟาน บรองค์ฮอร์สท์
ประตูที่แบ็คซ้ายรายนี้ซัลโวใส่ทีมชาติ อุรุกวัย ในฟุบอลโลก 2010 ยังคงติดตาเราและเป็นเหตุผลเพียงพอที่เราจะเลือกเขาเข้ามาอยู่ในลิสต์
กองกลาง
(CM) เอ็ดการ์ ดาวิดส์
มิดฟิลด์ไดนาโมภายใต้แว่นกันลมอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ระหว่างช่วงกลายยุค 90 ไปจนถึงกลางทศวรรษที่ 2000 เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีม อัศวินสีส้ม ที่กรุยทางไปถึงรอบรองชนะเลิศศึก ยูโร 2000 และมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวอีกด้วย
(CM) คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ
มิดฟิลด์ผู้มีเหรียญรางวัลประดับเต็มตู้และลงสนามให้กับทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1994-2008 เจ้าตัวเป็นหนึ่งในกองกลางที่ครบเครื่องที่สุดแห่งยุคสมัยเมื่อสามารถลงทำหน้าที่ทั้งในบทบาทเพลย์เมคเกอร์และปักหลักที่ริมเส้น
(AM) เวสลีย์ สไนเดอร์
ดาวเตะระดับตำนานผู้พลาดรางวัล บัลลงดอร์ 2010 ไปอย่างน่าเสียดายแม้ว่าเขาจะคว้าแชมป์ทั้ง กัลโช เซเรีย อา กับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ในซีซันดังกล่าว รวมถึงยังเป็นคีย์แมนของทัพ ออรันเย ในการกรุยทางสู่นัดชิงชนะเลิศของรายการฟุตบอลโลก 2010 กับดีกรีดาวซัลโวร่วมในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว
กองหน้า
(RW) อาร์เยน ร็อบเบน
ดาวเตะผู้มีท่าไม้ตายเป็นการโยกจากริมเส้นด้านขวาตัดเข้าใน เมื่อใดก็ตามที่ ร็อบเบน งัดไม้ตายดังกล่าวออกมา เจ้าหน้าที่บนสกอร์บอร์ดแทบจะกดเปลี่ยนสกอร์รอไว้ได้เลย อดีตดาวเตะ บาเยิร์น มิวนิค และ เชลซี รายนี้สิ้นสุดเส้นทางค้าแข้งกับทีมชาติด้วยสถิติ 37 ประตูจากการลงเล่นทั้งหมด 96 นัด
(LW) เดนนิส เบิร์กแคมป์
แม้ตำแหน่งที่เราให้ เบิร์กแคมป์ จะเป็นตัวรุกริมเส้นฝั่งซ้ายตามชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ แต่บทบาทที่เราอยากให้เขาประจำการคือการรับหน้าที่เป็นเพลย์เมคเกอร์คอยปั้นเกมในพิ้นที่ฮาล์ฟสเปซฝั่งซ้าย ซึ่งน่าจะเหมาะกับความสามารถของเจ้าตัวมากที่สุด
ทักษะการสัมผัสบอลแรกของตำนาน อาร์เซนอล รายนี้ทำให้ฟุตบอลดูราวกับเป็นศิลปะโดยที่เขาเป็นศิลปินลูกหนัง และประตูที่เจ้าตัวซัลโวใส่ อาร์เจนตินา ใน เวิลด์คัพ 1998 ยังคงติดตาเราไม่คลาย
(ST) โรบิน ฟาน เพอร์ซี
อดีตดาวเตะ อาร์เซนอล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผู้มีส่วนร่วมกับทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ ในทัวร์นาเมนต์ ยูโร และ ฟุตบอลโลก 2006, 2008, 2010, 2012 และ 2014 โดยมีสถิติการลงเล่นให้กับทัพ ออรันเย ไปทั้งสิ้น 102 นัดกับการซัลโว 50 ประตู
มุมแสดงทรรศนะ