ไม่งั้นซื้อแน่! “ทักษิณ” เผยเบื้องหลังชวดซื้อ ลิเวอร์พูล ก่อนลงเอย แมนฯ ซิตี้
ทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ วู้ดซัม (Tony Woodsome) ออกมาเปิดเผยผ่านรายการ CareTalk x Care ClubHouse ที่จัดตั้งโดยกลุ่ม CARE คิดเคลื่อนไทย ในหัวข้อ “7 ปีพัง ขออีก 5 ปีคงพินาศ ฮัลโลคนไทยไว้ใจประยุทธ์ได้หรือ?” เมื่อช่วงค่ำวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีช่วงหนึ่งพูดถึงโอกาสในการเทโอเวอร์ ลิเวอร์พูล สโมสรชั้นนำในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2547 หรือประมาณ 17 ปีที่แล้ว
โดย ทักษิณ เปิดเผยว่า “วันนั้นไทยกำลังเห่อเรื่องไทยแลนด์แบรนด์ เพื่อให้มีตราสินค้าของประเทศไทยไปสู่สากลให้ได้ และตอนนั้นพอดีมีคนรู้จักกันมาบอกผมว่า ลิเวอร์พูล จะขายทีม”
“ผมก็ตื่นเต้น เพราะตอนนั้นผมก็ชอบ ลิเวอร์พูล อยู่ ก่อนที่จะไปซื้อ แมนฯ ซิตี้ ก็ยังเป็นแฟนลิเวอร์พูล เราก็คิดอยู่ 2 อย่าง นอกจากเรื่องแบรนด์ก็เป็นการส่งเสริมเยาวชนให้เล่นกีฬา โดยเฉพาะฟุตบอล”
“การเล่นฟุตบอลอาชีพ ดูที่บราซิลเนี่ยส่งนักฟุตบอลออกไปเล่นที่เมืองนอกได้เงินกลับเข้ามาปีหนึ่งเป็นพันล้านเหรียญ แล้วก็ส่งนางแบบออกไปเนี่ย พวกซอฟต์พาวเวอร์เนี่ยเยอะแยะไปหมด นั่นคือสิ่งที่เราคิดว่าอยากส่งเสริม อยากให้คุณภาพของคนไทยเนี่ย ใครถนัดทางไหนก็ให้เก่งทางนั้นไปเลย”
“ตอนนั้นเราก็อยากให้คนไทยเป็นเจ้าของ และเราก็คุมกองสลากอยู่ กองสลากก็น่าจะชวนคนไทยมา เพราะเล่นหวยครั้งหนึ่งมันก็เก็บรายได้เยอะแยะไปหมดนะครับ วันนี้มันหายไปไหนก็ไม่รู้ แต่รายได้มันเยอะแยะไปหมดก็น่าจะเอามาทำตรงนี้ (ซื้อสโมสรลิเวอร์พูล)”
“บังเอิญว่ามีคนมาห้ามผมว่าอย่าทำเลย มันเป็นการพนันอย่างนั้นอย่างนี้ คือมองมิติเดียว คนนั้นชื่อ จำลอง ศรีเมือง ตอนนี้ยังดีกันอยู่ ก็บอกผมว่าอย่าไปทำเลย มันเป็นการพนัน เอาฟุตบอลมาเนี่ยคนไทยก็แทงบอลอีก”
“ในมิติของท่านก็อาจจะถูก แต่ว่าในมิติมากกว่านั้นเนี่ยมันก็มี คือมิติของการส่งเสริมกีฬาฟุตบอล มิติเรื่องการใช้แบรนด์ลิเวอร์พูลเป็นของทีมไทย ให้มาเป็นแบรนด์ไทย หรือลักษณะคล้ายๆกัน”
สำหรับ ทักษิณ ชินวัตร เทกโอเวอร์ แมนฯ ซิตี้ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2007 ด้วยราคา 23 ล้านปอนด์ (ประมาณ 979 ล้านบาท) แต่ในปีถัดมาได้ขายสโมสรต่อให้กับ อาบู ดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป ฟอร์ ดีเวล็อปเมนต์ แอนด์ อินเวสต์เมนด์ กลุ่มนักลงทุนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในราคา 150 ล้านปอนด์ (ประมาณ 6,391 ล้านบาท)
มุมแสดงทรรศนะ