11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ นัดที่ 14 แข้งลิเวอร์พูล แมนยู เลสเตอร์ นำทัพ
ทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก ประจำสัปดาห์ที่ 14 นำมาโดยบรรดาแข้งจาก ลิเวอร์พูล, แมนฯ ยูไนเต็ด และเลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นต่างโชว์ฟอร์มโดดเด่น ส่วนคนอื่นๆ จะเป็นใครมาจากไหนกันบ้าง ไปดูกันได้เลย
ผู้รักษาประตู : แคสเปอร์ ชไมเคิล (เลสเตอร์)
ป้องกันลูกยิงจ่อๆ ของ ซน ฮึง-มิน ได้อย่างเหลือเชื่อ ช่วยไม่ให้ เลสเตอร์ เสียประตูตีไข่แตก ก่อนจะเอาชนะไปได้ 2-0 ในที่สุด
โดย แคสเปอร์ ชไมเคิล เก็บคลีนชีตในลีกฤดูกาลนี้ได้เป็นเกมที่ 5 พร้อมพา “เดอะ ฟ็อกซ์” ทะยานขึ้นรั้งรองจ่าฝูง
กองหลัง : ติอาโก้ ซิลวา (เชลซี)
การขึ้นมาทำประตูจากลูกเตะมุมคือเครื่องหมายการค้าของ ติอาโก้ ซิลวา ตลอดทั้งอาชีพการเล่น ซึ่งเกมที่ เดอะ บริดจ์ ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่เจ้าตัวทำได้จากการเล่นลักษณะนี้
9 จาก 16 ประตูของ ซิลวา ในลีกใหญ่ยุโรป เกิดขึ้นจากลูกโหม่ง รวมถึง 7 จาก 8 ลูกล่าสุด ก็มาจากการใช้ศีรษะทำประตู
กองหลัง : เวสลี่ย์ โฟฟาน่า (เลสเตอร์)
จัดการ แฮร์รี่ เคน ได้อย่างอยู่หมัด เล่นงานจนหัวหอกทีมชาติอังกฤษ เล่นไม่ออกตลอดทั้งเกม โดยเกมนี้แนวรับดาวรุ่งเลือดน้ำหอม วัย 20 ปี จัดการเคลียร์บอลได้ 5 ครั้ง รวมถึงตามปะทะบอลสำเร็จอีก 2 หน
กองหลัง : แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (ลิเวอร์พูล)
รับมือแนวรุกความเร็วสูงของ คริสตัล พาเลซ ได้ดีเยี่ยม แถมยังเติมเกมบุก เปิดบอลแม่นๆ ให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ทำประตู ซึ่งนับเป็นแอสซิสต์ที่ 5 ของเจ้าตัวใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้
กองกลาง : สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ (แมนฯ ยูไนเต็ด)
ในศึก “สงครามดอกกุหลาบ” ระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด คนที่โดดเด่นตั้งแต่นาทีแรกยันนาทีสุดท้าย เป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่จัดการทำสองประตูตั้งแต่ช่วง 3 นาทีแรก
และจากสองประตูดังกล่าวทำให้แข้งวัย 24 ปี เป็นผู้เล่นคนแรกของศึก พรีเมียร์ลีก ที่ทำสองประตูในช่วง 3 นาทีแรกของเกม
กองกลาง : บรูโน่ แฟร์นันด์ส (แมนฯ ยูไนเต็ด)
หลังจากไม่มีส่วนร่วมกับประตูมาสองเกมติด มาเกมนี้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส จัดการเบิ้ลสองประตูพร้อมกับแอสซิสต์อีกหนึ่งครั้ง จนทำให้ตอนนี้แข้งโปรตุกีสมีส่วนร่วมกับประตูไปแล้วถึง 29 ประตูจากการลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก 29 นัด (17 ประตู 12 แอสซิสต์)
กองกลาง : จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (ลิเวอร์พูล)
เล่นได้ดีต่อเนื่องสำหรับ “กัปตันหงส์แดง” จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ซึ่งเกมนี้เจ้าตัวก็ทำประตูได้จากลูกยิงไกลนอกกรอบเขตโทษ ซึ่ง 11 จาก 27 ประตูที่ เฮนโด้ ทำได้ในสีเสื้อ ลิเวอร์พูล ในศึก พรีเมียร์ลีก เกิดจากลูกยิงนอกกรอบคิดเป็น 41%
กองกลาง : เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่ (แอสตัน วิลล่า)
ครอสบอลสุดสวยให้ อันวาร์ เอล กาซี่ ทำประตู รวมถึงซัดประตูได้อย่างเฉียบขาด พา แอสตัน วิลล่า บุกชนะ เวสต์บรอมวิช 3-0
และจากเกมนี้คือการทำประตูแรกในศึก พรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2016 สมัยที่เจ้าตัวยังเป็นดาวรุ่งอยู่ที่ เชลซี
กองหน้า : โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล)
แม้จะลงมาเป็นตัวสำรอง และมีเวลาในสนามประมาณครึ่งชั่วโมง แต่ โม ซาลาห์ ก็จัดการทำได้ถึง 2 ประตู และอีก 1 แอสซิสต์ ซึ่งทำให้เจ้าตัวเป็นผู้เล่นคนแรกของ ลิเวอร์พูล ที่ลงสนามเป็นตัวสำรองแล้วมีส่วนร่วมกับประตู 3 ลูก
กองหน้า : เจมี่ วาร์ดี้ (เลสเตอร์)
แค่ เจมี่ วาร์ดี้ คนเดียวก็ป่วนแนวรับของ สเปอร์ส ได้อย่างมหาศาล ประตูแรกมาจากลูกจุดโทษ และประตูสอง เจ้าตัวเทคขึ้นโหม่งเหนือ มุสซ่า ซิสโซโก้ ก่อนที่บอลจะไปโดนตัว โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ เข้าประตูตัวเอง
การทำประตูได้ในเกมนี้ทำให้เขาเป็นผู้เล่นคนแรกที่สามารถยิงประตูทีมทีมเดียวกันในการออกไปเยือนสนามที่แตกต่างกัน 3 สนาม ไล่ตั้งแต่ ไวท์ ฮาร์ท เลน, เวมบลี่ย์ และ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม
กองหน้า : โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (ลิเวอร์พูล)
กลับมาอยู่ในฟอร์มอันยอดเยี่ยม ขับเคลื่อนเกมรุกของ ลิเวอร์พูล ได้อย่างไหลลื่น ซึ่งเกมนี้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ทำประตูได้อย่างเฉียบขาด จนทำให้ตอนนี้ดาวเตะแซมบ้า มีส่วนร่วมกับประตูในพรีเมียร์ลีก ครบ 100 ประตูแล้ว (62 ประตู 38 แอสซิสต์)
มุมแสดงทรรศนะ