11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ นัดที่ 11 แข้งลิเวอร์พูล เชลซี พากันเข้าวินเยอะสุด

สัปดาห์นี้มีผู้เล่นจาก เชฟฯ ยูไนเต็ด ติดเข้ามาสองราย เช่นเดียวกับสองแข้งจาก ลิเวอร์พูล และ เชลซี ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ส่งแนวรับเข้ามาประกวดหนึ่งคน ส่วนตำแหน่งอื่นๆ จะมีใครบ้างไปดูกันได้เลย

ผู้รักษาประตู : เบน ฟอสเตอร์ (วัตฟอร์ด)

แม้ทีมจะปราชัยต่อ เชลซี แต่ เบน ฟอสเตอร์ ทำได้หน้าที่ป้องกันประตูได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังเกือบมีชื่อบนสกอร์บอร์ดหลังขึ้นมาช่วยทีมในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

เกมนี้เจ้าตัวเซฟไปถึง 8 หนซึ่งเป็นตัวเลขที่มากที่สุดในพรีเมียร์ลีกสัปดาห์นี้

กองหลัง : ไคล์ วอล์คเกอร์ (แมนฯ ซิตี้)

ในช่วงที่ตำแหน่งตัวจริงเริ่มสั่นคลอน เกมนี้ อดีตแบ็ก สเปอร์ส กลายเป็นฮีโร่ของทีมด้วยการแอสซิสต์ให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ทำประตูตีเสมอ ก่อนที่ตัวเองจะมายิงประตูชัยในเกมเฉือน เซาธ์แฮมป์ตัน แบบหืดจับ

เป็นครั้งแรกที่เขาเหมาประตูและแอสซิสต์ในเกมเดียวกันหลังผ่านเกมพรีเมียร์ลีกมา 272 นัด

กองหลัง : คักลาร์ โชยุนชู (เลสเตอร์)

ตัวแทนของ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ทำผลงานในซีซั่นนี้ได้ดีเหลือเชื่อ โดยเฉพาะเกมนี้ที่บัญชาเกมรับสุดเจ๋งแถมยังเติมขึ้นมาโขกประตูให้ทีมออกนำ ก่อนจบด้วยชัยชนะ 2-0

โชยุนชู กลายเป็นผู้เล่นตุรกีคนที่สองที่ทำประตูได้ในพรีเมียร์ลีกกับ เลสเตอร์ ต่อจาก มุสซี่ อิซเซ็ต

 

 

กองหลัง : สตีฟ คุ้ก (บอร์นมัธ)

กัปตันทีม บอร์นมัธ จัดหารแนวรกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ซะอยู่หมัด เหมาะสมเหลือเกินที่เขาจะติดทีมยอดเยี่ยมในสัปดาห์นี้

เกมนี้ สตีฟ คุ้ก จัดการเคลียร์บอลได้ถึง 9 ครั้ง และยังผ่านบอลไปอีก 41 หน

กองหลัง : เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (ลิเวอร์พูล)

แสดงถึงแพสชั่นอันสูงส่งในเกมที่ 100 ของเขากับ ลิเวอร์พูล ความมุ่งมั่น, ทุ่มเท และไม่ยอมแพ้ ก่อนเปิดลูกเตะมุมให้ มาเน่ โหม่งทำประตูชัย

กองกลาง : จอนโจ เชลวี่ย์ (นิวคาสเซิล)

ประตูที่ จอนโจ เชลวี่ย์ ทำได้คือลูกฟรีคิกแรกที่เขายิงเข้าหลังเคยพยายามมา 31 ครั้งก่อนหน้านี้

 

 

กองกลาง : จอห์น ลุนด์สแตรม (เชฟฯ ยูไนเต็ด)

ขวัญใจคอเกมแฟนตาซี ซัดสองประตูแถมทีมยังเก็บคลีนชีตได้ เกมนี้ จอห์น ลุนด์สแตรม เล่นได้โดดเด่นเหลือเกิน

ลุนด์สแตรม เป็นนักเตะดาบคู่ คนที่ 9 เท่านั้นที่ทำสองประตูได้ในเกมเดียว และเป็นคนแรกต่อจาก เนธาน เบล็ค ที่ทำไว้กับ นิวคาสเซิล เมื่อเดือน เมษายน ปี 1994

กองกลาง : จอร์จินโญ่ (เชลซี)

บอลที่ออกจากเท้าของเขาให้กับ แทมมี่ อบราแฮม ซัดประตูแรกนั้นถือว่ายอดเยี่ยมซะเหลือเกิน จากเกมนี้ จอร์จินโญ่ มีส่วนร่วมกับประตูไปแล้ว 3 ครั้ง( 1 ประตู 2 แอสซิสต์) มากกว่าซีซั่นที่แล้วทั้งซีซั่น 37 นัด เสียอีก (2 ประตู 1 แอสซิสต์) อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวมาทำเสียจุดโทษจนทีมต้องมาลุ้นเหนื่อยในช่วงท้ายเกม

กองหน้า : ซาดิโอ มาเน่ (ลิเวอร์พูล)

ฤดูกาลนี้ ซาดิโอ มาเน่ แบก ลิเวอร์พูล ไว้บนบ่าทั้งสองข้าง หลายต่อหลายเกมที่เขาพา หงส์แดง เก็บชัยในช่วงท้ายเกม และเกมนี้ก็เป็นอีกครั้งที่เขา ทำได้ โดยการเปิดบอลให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ขึ้นโขกตีเสมอ และตัวเองก็มาโหม่งเช็ดบางๆ ให้ทีมเก็บชัยออกไปจาก วิลล่า พาร์ค

ประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนี้ นับเป็นลูกที่ 35 ที่ ลิเวอร์พูล ทำได้ในพรีเมียร์ลีก ซึ่งมากกว่าอันดับที่ตามมาถึง 10 ลูก

กองหน้า : แทมมี่ อบราแฮม (เชลซี)

กองหน้าดาวรุ่งจากค่าย สิงห์บลูส์ รายนี้กลายเป็นดาวยิงเบอร์ 1 ประจำทีมไปเรียบร้อย ซึ่งจากการทำทั้งประตูและแอสซิสต์ นับเป็นครั้งแรกที่เขาทำได้จากการลงเล่นเกมลีก 44 เกม

กองหน้า : ลีส มุสเซ็ต (เชฟฯ ยูไนเต็ด)

อีกหนึ่งแข้งจากทีมดาบคู่ที่ติดทีมยอดเยี่ยมสัปดาห์นี้ เหตุที่ต้องดึงกองหน้ารายนี้มาเพราะ 3 แอสซิสต์ที่เขาส่งต่อให้เพื่อนทำประตู