4 เหตุผลที่ เมสซี่ ซบ อินเตอร์ ไมอามี่ : ทำไมไม่เลือก บาร์เซโลนา หรือไปซาอุฯ พร้อมสิ่งที่จะต้องเจอในอนาคต

เป็นอันว่าได้ข้อสรุปไปอีกเรื่อง สำหรับประเด็นสำคัญของโลกฟุตบอลในช่วงซัมเมอร์นี้ ว่ายอดแข้งอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ จะไปลงเอยที่ตรงไหน ภายหลังยืนยันการจากลา ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เอาไว้ล่วงหน้าก่อนนี้

พุธที่ผ่านมา เมสซี่ ตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว ถึงเหตุผลของการไม่กลับคืนรังเก่า บาร์เซโลน่า และไม่ไปโกยเงินมหาศาลในซาอุดีอาระเบีย แต่เป็นการจิ้มเลือกชอยส์เซอร์ไพรส์เล็กๆ อย่าง “อินเตอร์ ไมอามี่” ของคุณชาย เดวิด เบ็คแฮม นั่นเอง…

จบกับ ปารีสฯ …แบบไม่สวย

มายัง ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ ด้วยสถานะความเป็นไอคอน สุดยอดดาวเตะลูกหนังโลก ตัวความหวังที่จะมาช่วยให้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง สานต่อความไร้เทียมทานในประเทศ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ตามหามาแสนนาน

แต่ในขณะที่ผลงานส่วนตัวของ ลิโอเนล เมสซี่ จัดว่ายอดเยี่ยม ไม่มีอะไรต้องติดค้างสงสัย

• 2021/22 – ลงสนาม 34 นัด ซัด 11 ประตู 15 แอสซิสต์

  2022/23 – ลงสนาม 41 นัด ซัด 21 ประตู 20 แอสซิสต์

  รวมสองปี – ลงสนาม 75 นัด ซัด 32 ประตู 35 แอสซิสต์

ทว่ากับผลงานภาพรวม กลายเป็นร่องรอยตำหนิและจุดที่ทำให้ เมสซี่ ไม่อาจแทรกเข้าไปในหัวใจสาวก เปแอสเช ได้ — ปีแรก คว้าแชมป์ ลีก เอิง ส่วนบอลถ้วยทุกรายการ ปิ๋วหมด เช่นกัน ปีสอง ป้องกันแชมป์ ลีก เอิง และตกรอบบอลถ้วย โดยที่ ชปล. ถูกหยุดเส้นทางรอบ 16 ทีมสุดท้ายทั้งสองปี

เมสซี่ กลายเป็นเป้าโห่ใส่ของแฟนบอล ปารีสฯ บางกลุ่ม ไม่เว้นแม้กระทั่งวันอำลา เกมปิดซีซั่นเมื่อไม่นานนี้ ที่เสียงโห่ก็ยังพุ่งตรงถึงโคตรแข้งแชมป์โลกอย่างเขาอยู่ดี

หนึ่งคือเรื่องในสนาม และอีกหนึ่งก็คือเรื่องนอกสนาม ที่ เมสซี่ เผยชัดว่า ตัวเขาและครอบครัว ไม่มีความสุขอย่างที่ควรจะเป็นในเมืองหลวงสุดศิวิไลซ์ของแดนน้ำหอม

“ผมใช้เวลา 2 ปีอยู่ในสถานที่ที่ไม่ค่อยดีนักในแง่ของครอบครัว และผมก็ไม่สนุกนักด้วย” เมสซี่ เผยในระหว่างประกาศดีลกับ อินเตอร์ ไมอามี่ “ผมมีช่วงเวลาหนึ่งเดือนที่แสนวิเศษ คือในช่วงที่คว้าแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จ แต่นอกจากนั้นแล้ว มันคือช่วงที่ยากลำบากของผม”

“ผมต้องการฟื้นคืนความสนุกสนาน การได้มีความสุขร่วมกับครอบครัว กับลูกชาย กับหน้าที่การงานในแต่ละวันที่ผ่านไป และเหตุผลเหล่านี้ก็มีส่วนที่ทำให้ผมไม่กลับไปยัง บาร์เซโลน่า เช่นกัน”

ใจหนึ่งก็รัก อีกใจหนึ่งก็เจ็บ

ไม่ใช่ความลับและไม่ใช่อะไรที่สลับซับซ้อน ว่าเมื่อสัญญา 2 ปีกำลังจะหมดลงกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แล้ว ป้ายถัดไปที่ เมสซี่ ต้องการลงจอด ก็คือการ “กลับบ้าน” คืนรัง บาร์เซโลน่า ที่ที่เขาเติบโตมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กขี้โรค แล้วค่อยๆ พัฒนาตัวขึ้นสู่จุดสูงสุดของโลกลูกหนัง

กลับไปนำเกมรุก บาร์ซ่า คอยเปิดป้อนและประสานงานกับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, อุสมัน เดมเบเล่, เปดรี้, กาบี โดยมีเพื่อนสนิทอย่าง ชาบี เอร์นานเดซ เป็นกุนซือ

นี่คงเป็นทางลงที่สวยงามสำหรับทุกฝ่าย และแฮปปี้ทุกฝ่ายด้วยเหมือนกัน

เพียงแต่เรื่องจริงคือ บาร์ซ่า ยังไม่อาจเคลียร์ตัวเองจาก “ปัญหาการเงิน” ได้อย่างชัดเจน ใครจะรู้ว่า วันดีคืนดีจะถูก ลา ลีกา ตัดสิทธิ์การลงทะเบียน ถอนชื่อออกจากทีมเอาเสียเมื่อไหร่ อย่างที่เกิดขึ้นมาแล้วกับเจ้าหนู กาบี (หรือ เมสซี่ เองที่ถูกขวางการต่อสัญญาฉบับใหม่)

ก็ถ้าต้องกลับไปเผชิญปัญหาเก่าแบบนี้ซ้ำสอง สู้ไปหา “บ้านใหม่” ที่อะไรๆ ราบรื่นกว่า อยู่สบายกว่า ดีกว่า

“ใช่ เป็นเรื่องจริง ผมอยากกลับไป และตั้งตารอถึงช่วงเวลานั้น มีความฝันนั้นมาตลอด แต่ในอีกทาง หลังจากเคยผ่านสิ่งที่ผมประสบมาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ผมไม่ต้องการกลับไปอยู่ในสถานการณ์เดิมๆ อีกต่อไป การที่ทำได้แค่ต้องรอว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง ผมไม่ต้องการให้อนาคตของผมอยู่ในการตัดสินใจของใคร ผมอยากตัดสินใจด้วยตัวเอง เพื่อตัวเอง และครอบครัว”

“ผมได้ยินมาว่า ลา ลีกา ยอมเปิดไฟเขียว แต่ความจริงคือยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ขาดหายไป เพื่อจะทำให้การย้ายกลับไป บาร์ซ่า เกิดขึ้นได้จริง ผมไม่อยากเป็นภาระให้พวกเขาต้องขายนักเตะบางคนออก หรือลดเงินค่าจ้างใครทั้งนั้น ผมไม่อยากเอาตัวเข้าไปเกี่ยวข้องและรับผิดชอบกับเรื่องเหล่านี้”

ทำไมสหรัฐฯ ไม่ใช่ซาอุฯ

“ผมได้มาอยู่ในจุดที่ผมอยากพาตัวเองออกมาจากสปอตไลท์สักเล็กน้อย และให้ความสำคัญกับเรื่องครอบครัวมากขึ้นกว่าเดิม” เมสซี่ ชี้แจงเหตุผลที่เลือก สหรัฐอเมริกา เป็นจุดหมายถัดไปหลังหมดสัญญากับ เปแอสเช 30 มิ.ย. ไม่ใช่การตามไปเป็นคู่แข่งของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ซาอุดีอาระเบีย หรือการแวะมาโชว์ตัวใน พรีเมียร์ลีก ด้วยการเป็นลูกน้องเจ้านายเก่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

“ผมได้ตัดสินใจว่า ผมจะไปยัง ไมอามี่ และอำลาทวีปยุโรปไป มันเป็นเรื่องจริงที่ผมได้รับข้อเสนอจากบางทีมในยุโรป แต่ผมไม่ได้มีตัวเลือกนี้อยู่ในหัวเลย เพราะถ้าเป็นในยุโรป ความต้องการเดียวเท่านั้นของผมคือ บาร์เซโลน่า”

“หลังจากครองแชมป์โลก และไม่ได้กลับไป บาร์ซ่า มันก็คือเวลาอันเหมาะสมที่จะไปยัง เอ็มแอลเอส เพื่อใช้ชีวิตกับฟุตบอลในทางที่ต่างไป และสนุกกับชีวิตในแต่ละวันให้มากขึ้น”

“แน่นอนว่าผมยังคงมีความรับผิดชอบและความปรารถนาถึงชัยชนะอย่างเดิม และต้องการจะทำให้ทุกอย่างออกมาดีด้วย แต่ก็ด้วยความสงบนิ่งที่มากกว่า”

เมสซี่ รับว่าเขาได้คุยกับ ชาบี ไปบ้างแล้วถึงเรื่องการย้ายกับ คัมป์ นู แต่คุยกับประธาน โจน ลาปอร์ต้า “น้อยมาก ครั้งเดียวหรือสองครั้ง ไม่เกินนั้น”

“เราตื่นเต้นกับเรื่องนี้ (ย้ายกลับบาร์ซ่า) เพราะถึงจุดหนึ่งเราคงจะได้พูดกันว่าเขาต้องการให้ผมกลับไปจริงๆ หรือเปล่า แต่เราไม่เคยคุยกันเรื่องสัญญา พวกเขาส่งเรื่องทาบทามมาหาผม แต่ไม่เคยเป็นทางการ และเราไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่”

“มันเป็นความตั้งใจ แต่เราไม่อาจขยับไปถึงความคืบหน้าอีกระดับได้ เราไม่ได้คุยกันเรื่องเงินเลยด้วยซ้ำ”

“ถ้าการย้ายทีมของผมขึ้นอยู่กับเรื่องเงินเป็นสำคัญ ผมคงตอบรับการย้ายสู่ ซาอุดีอาระเบีย หรือไม่ก็ที่อื่นไปแล้ว”

อะไรบ้างที่ เมสซี่ จะได้เจอ

ในแง่ของรายได้ การเซ็นสัญญา (ว่ากันว่า) ระยะ 2 ปีครึ่งกับ อินเตอร์ ไมอามี่ ของ เดวิด เบ็คแฮม (Co-Owner) และพรรคพวกครั้งนี้ สื่ออาร์เจนติน่าระบุว่าจะทำเงินให้ เมสซี่ ที่ประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี ซึ่งก็แน่นอนว่า นี่คือดีลมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์ MLS

แต่นอกจากเงินเดือนแล้ว ยังมีสิทธิประโยชน์ที่ดาวเตะวัยย่าง 36 จะได้รับอีกมากมาย เช่น

• – ออปชั่นสำหรับการซื้อหุ้นสโมสร เป็นเจ้าของร่วม อินเตอร์ ไมอามี่

  – รายได้จาก Apple TV (ผ่านมาทางลีก)

  – รายได้จาก อาดิดาส ที่เป็นสปอนเซอร์ของทั้ง เมสซี่ และ เอ็มแอลเอส

ส่วนในแง่ของฟุตบอล แรกสุดที่ เมสซี่ จะเจอ ก็คือ “เจ้านายคนใหม่” ที่สื่อหลายเจ้าบอกว่ามีโอกาสสูงจะออกรูป “คนคุ้นเคย” อย่าง เคราร์โด้ มาร์ติโน่ โค้ชอาร์เจนไตน์วัยแซยิด ที่เคยเป็นเจ้านายของ เมสซี่ ทั้งที่ บาร์ซ่า (2013-2014) และทีมชาติอาร์เจนติน่า (2014-2016) มาแล้ว

เพราะก็เพิ่งต้นเดือนนี้เองที่ทีมสีชมพูแห่ง ฟอร์ต ลอเดอร์เดล, ฟลอริด้า สั่งเด้ง ฟิล เนวิลล์ ออกจากเก้าอี้กุนซือที่นั่งมา 2 ปีครึ่ง เซ่นสังเวยผลงานติดลบ แพ้ 11 จาก 16 เกมแรกของซีซั่น 2023 เว้นที่ไว้ให้ชัยชนะแค่ 5 เกมเท่านั้น

ก็ไม่ต้องสงสัย ทั้ง เมสซี่ และ ตาต้า มาร์ติโน่ ที่จะเข้ามา จะต้องมาเจองานหนักใช่ย่อย กับความพยายามพา อินเตอร์ ไมอามี่ ขยับขึ้นไปจากอันดับ “บ๊วย” ที่ 15 โซนตะวันออก หรืออันดับ 27 ในภาพรวม Overall MLS Table

อ่อ ส่วนบรรดาเพื่อนร่วมทีม บอกเลยว่า เมสซี่ คงต้องทำความรู้จักกับทุกคนแบบใหม่หมด เมื่อตัวดังสุดเวลานี้มีแค่คนเดียวคือ ดีอันเดร เยดลิน กองหลังอเมริกัน ที่เคยเล่นกับ สเปอร์ส, ซันเดอร์แลนด์ และ นิวคาสเซิ่ล

อย่างไรก็ตาม ยังมีข่าวลือเพิ่มเติมอยู่เหมือนกันว่า ถัดจาก เมสซี่ แล้ว อินเตอร์ ไมอามี่ ยังเตรียมเปิดประตูต้อนรับซุปตาร์อีกหลายราย ไม่ว่าจะ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ที่ยืนยันแล้วถึงการอำลา บาร์ซ่า, อังเคล ดิ มาเรีย จากยูเวนตุส, เลอันโดร ปาเรเดส จากเปแอสเช จนถึง หลุยส์ ซัวเรซ ที่ตอนนี้หลบไปอยู่ เกรมิโอ

ส่วนเรื่องว่าจะมาประสบความสำเร็จ หรือล้มเหลวไปไม่เป็นกับบอลแดนลุงแซม คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

ที่ชัดเจนตอนนี้คือ เมสซี่ ตัดสินใจแล้วถึงการเริ่มต้นการผจญภัยใหม่ของตัวเอง ที่อาจหลุดออกจากโฟกัส ห่างไปจากสปอตไลท์อย่างที่เคยเจอมาหลายสิบปี

ช่วงเวลาของเขากับเวทียุโรปที่เราคุ้นเคย สิ้นสุดลงไปแล้ว และด้วยวัยขนาดนี้ การหลบไปไกลแบบนี้ ก็คงหมายความเป็นอื่นไปไม่ได้อีกนอกจากว่า “ตอนจบบริบูรณ์” ของ เมสซี่ (และ โรนัลโด้ ก็ด้วย) ใกล้เข้ามาทุกขณะแล้วจริงๆ