ฟอร์มห่วยแต่ “แมนยู” ฟันรายได้เพิ่มขึ้น 6% สูงเป็นสถิติสโมสร

---

เอ็ด วู้ดเวิร์ด บิ๊กบริหาร แมนฯ ยูไนเต็ด เผยรายได้สโมสรซีซั่นที่แล้วสูงเป็นประวัติการณ์ พร้อมให้สัญญาทุ่มเต็มที่กับการเสริมทัพและพัฒนาเยาวชนต่อไป

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศผลประกอบการของสโมสรฤดูกาล 2018/2019 (นับจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน) ว่า มีรายได้สูงเป็นสถิติถึง 627.1 ล้านปอนด์ (ประมาณ 23,830 ล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 6 เปอร์เซ็นต์

เอ็ด วู้ดเวิร์ด รองประธานบริหาร “ปีศาจแดง” เปิดเผยเมื่อวันอังคารที่ 24 กันยายน ที่ผ่านมาว่า สโมสรมีรายได้เพิ่มขึ้นมากเป็นผลมาจากได้ค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดถึง 241.2 ล้านปอนด์ (ประมาณ 9,165.8 ล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 18 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

นอกจากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ยังมีผลกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 14 เปอร์เซ็นต์เป็น 50 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,900 ล้านบาท) รวมทั้งได้เงินจากการขายนักเตะในฤดูกาลที่แล้ว 25.8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 980.4 ล้านบาท) ซึ่งส่วนหนึ่งได้จากการปล่อย ดาเล่ย์ บลินด์ ให้ อาแจ็กซ์ และ มารูยาน เฟลไลนี่ ให้ ชานตง ลู่เหนิง

    วู้ดเวิร์ด เผยว่า “พวกเราจะยังคงทุ่มเทให้กับแผนการสร้างทีมของเรา และสร้างความแข็งแกร่งในระบบเยาวชนของเราต่อไป เพื่อให้มีความสอดคล้องกับปรัชญาของสโมสรและผู้จัดการทีม”

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ผลงานในสนามของ “ปีศาจแดง” กลับย่ำแย่สวนทางกับผลประกอบการของสโมสร หลังออกสตาร์ตฤดูกาลไปแล้ว 6 นัด เพิ่งเก็บได้แค่ 8 คะแนน รั้งอันดับ 8 ของตาราง และหากไม่สามารถคว้าโควตาไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็คงจะทำให้รายได้ลดลงอย่างแน่นอน