นักบอลหรือนักบุญ! เกิดอะไรขึ้นเมื่อ “ซาลาห์” โดนโจรขึ้นบ้าน

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ คือสตาร์ผู้ยิ่งใหญ่ของทีมชาติอียิปต์ และ​ลิเวอร์พูล ในพ.ศ. นี้

และแน่นอนว่า กว่าจะเดินมาถึงหลักไมล์นี้ได้เขาก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมาไม่น้อย เช่น ตอนค้าแข้งที่อียิปต์ ซาลาห์ก็เจอเรื่องน่าสะพรึง อย่างการโดนขโมยขึ้นบ้านครอบครัวมาแล้ว

แต่เพียงแค่ 2 วันตำรวจก็ตามจับหัวขโมยตัวดีได้และก็เป็นเรื่องปกติที่พ่อของซาลาห์ อยากจะให้ดำเนินคดีจนถึงที่สุด อย่างไรก็ตาม กลับเป็นแข้งรายนี้ที่ขอยอมความ

เหนือไปกว่านั้น ซาลาห์ยังได้มอบเงินให้กับหัวขโมยไปอีกส่วนนึง พร้อมพยายามช่วยโจรหางานทำอีก ด้วยความเชื่อว่าทุกคนสมควรที่จะได้รับโอกาสแก้ตัว

 

แต่แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่น่าเหลือเชื่อเพียงอย่างเดียวกับความเป็นพ่อพระของซาลาห์

ในอดีต ซาลาห์มีช่วงเวลาที่ยากลำบากเป็นอย่างมากในการต่อสู้เพื่อเป็นนักฟุตบอลโดยเขาต้องเดินทางจากบ้านถึง 4 ชั่วโมงครึ่ง ต่อรถบัส 3-5 คันเพื่อไปซ้อมกับสโมสรที่กรุงไคโรทุกวัน วนอยู่แบบนั้นเป็นปีๆ

จากเรื่องนี้ ซาลาห์จึงไม่เคยลืมกำพืดของตัวเอง และเขาก็พร้อมที่จะส่งต่อโอกาสด้วยการช่วยเหลือเด็กๆในบ้านเกิดอย่างเมืองนากริกเสมอ

“เขามาที่นี่ เล่นปิงปอง และแทงพูล พร้อมจะให้เซ็นและยืนถ่ายรูปกับทุกคน เขาไม่เปลี่ยนไปเลย” โมฮาเหม็ด บาสยูนิ เพื่อนที่บ้านเกิดกล่าวถึงซาลาห์

 

ปกติแล้วของขวัญเล็กๆน้อยให้เด็กๆ และบริจาคเงินเมื่อมีโอกาสเป็นสิ่งที่ซาลาห์ทำเสมอ

แต่ครั้งหนึ่ง เมื่อซาลาห์รู้ว่าผู้ป่วยมะเร็ง อย่าง เจ้าหนู อับเดลราห์มัน มาห์มูด ต้องการเจอนักฟุตบอลเพื่อเป็นกำลังใจ เขาก็ไม่รอช้า รีบโทรสายตรง สัญญาว่าจะไปหาและออกค่ารักษาให้ทันที

หลังจากนั้น เขายังได้บริจาคเงินให้กับศูนย์มะเร็งมากในประเทศอียิปต์มากกว่า 100 ล้านบาทด้วย เรียกได้ว่า ไม่ว่าใครต้องการความช่วยเหลือ หากซาลาห์พอจะหยิบยื่นได้ เขาก็จะช่วยไปอย่างไม่ลังเล

 

“ครั้งหนึ่งมีคนในหมู่บ้านจะแต่งงานก็ได้เข้ามาขอเงินพ่อซาลาห์ หรือหากมีใครป่วย ถ้ามันเป็นเรื่องจริง เขาก็พร้อมที่จะจ่ายเงินให้เลย” อินาส มาซฮาร์ อดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อมวลชนของทีมชาติอียิปต์กล่าว

“เขาไม่ได้ช่วยคนเพื่อให้มาสำนึกบุญคุณ แต่เพราะเขาเคยผ่านความยากลำบากเหล่านั้นมาเหมือนกันจึงอยากจะทำ ก็แค่นั้น”

ในบางครั้ง ซาลาห์อาจจะโดนแฟนบอลบ่นบ้างเรื่องการเล่นฟุตบอลชายเดี่ยวมากเกินไป แต่หลังจากฟังหลายๆเรื่องราวของเขา ก็อาจอนุมานได้ว่ามันไม่ใช่การเห็นแก่ตัว หากเป็นการเล่นตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาในการเป็นตัวจบสกอร์นั่นเอง