วิเคราะห์บอลวันนี้

วิเคราะห์บอล เอฟเอ คัพ : ลิเวอร์พูล -vs- นอริช

ufasexygame


วิเคราะห์บอล เอฟเอ คัพ : ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก) -vs- นอริช (พรีเมียร์ลีก)
สนาม : แอนฟิลด์
เวลา : 03.15 น.
ราคาบอล : ลิเวอร์พูล ต่อ 2.0

 

ผลการพบกันของทั้งสองทีม

19/02/22 ลิเวอร์พูล ชนะ นอริช 3-1
22/09/22 นอริช แพ้ ลิเวอร์พูล 0-3 / ลีก คัพ
14/08/21 นอริช แพ้ ลิเวอร์พูล 0-3
16/02/20 นอริช แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1
10/08/19 ลิเวอร์พูล ชนะ นอริช 4-1
23/01/16 นอริช แพ้ ลิเวอร์พูล 4-5
20/09/15 ลิเวอร์พูล เสมอ นอริช 1-1
20/04/14 นอริช แพ้ ลิเวอร์พูล 2-3
05/12/13 ลิเวอร์พูล ชนะ นอริช 5-1
19/01/13 ลิเวอร์พูล ชนะ นอริช 5-0

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดในรายการนี้

ลิเวอร์พูล
06/02/22 ชนะ คาร์ดิฟฟ์ 3-1 (เหย้า)
09/01/22 ชนะ ชรูว์สบิวรี่ 4-1 (เหย้า)
25/01/21 แพ้ แมนฯยู 2-3 (เยือน)
09/01/21 ชนะ แอสตัน วิลล่า 4-1 (เยือน)
04/03/20 แพ้ เชลซี 0-2 (เยือน)

นอริช
05/02/22 ชนะ วูล์ฟส์ 1-0 (เยือน)
09/01/22 ชนะ ชาร์ลตัน 1-0 (เยือน)
23/01/21 แพ้ บาร์นสลี่ย์ 0-1 (เยือน)
09/01/21 ชนะ โคเวนทรี่ 2-0 (เหย้า)
27/06/20 แพ้ แมนฯยู 1-2 (เหย้า) / ต่อเวลาพิเศษ

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

ลิเวอร์พูล
28/02/22 เสมอ เชลซี 0-0 (กลาง) ลีก คัพ / ต่อ 0.25 … เสียครึ่ง (ชนะจุดโทษ 11-10)
24/02/22 ชนะ ลีดส์ 6-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 2.25 … ได้
19/02/22 ชนะ นอริช 3-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 2.5 … เสีย
17/02/22 ชนะ อินเตอร์ มิลาน 2-0 (เยือน) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก / ต่อ 0.25 … ได้
13/02/22 ชนะ เบิร์นลี่ย์ 1-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1.75 … เสีย

นอริช
26/02/22 แพ้ เซาท์แฮมป์ตัน 0-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / รอง 1 … เสีย
19/02/22 แพ้ ลิเวอร์พูล 1-3 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / รอง 2.5 … ได้
13/02/22 แพ้ แมนฯซิตี้ 0-4 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / รอง 2 … เสีย
10/02/22 เสมอ คริสตัล พาเลซ 1-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / รอง 0.25 … ได้ครึ่ง
05/02/22 ชนะ วูล์ฟส์ 1-0 (เยือน) เอฟเอ คัพ / รอง 0.5 … ได้

สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล

ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งจะคว้าแชมป์ ลีก คัพ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังดวลเป้าเอาชนะ เชลซี 11-10 สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงสนาม จะไม่มีชื่อ ธิอาโก้ อัลคานตาร่า ซึ่งเจ็บเข้ามาสดๆ ร้อนๆ ก่อนลงเตะแมตช์ดังกล่าว สมทบกับ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ที่เดี้ยงอยู่เดิม คาดว่า คล็อปป์ เตรียมโรเตชั่นในระบบ 4-3-3 โดยมี ดิโอโก้ โชต้า, ดิว็อค โอริกี้ กับ ทาคูมิ มินามิโนะ เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าสกอร์และใช้ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน, เจมส์ มิลเนอร์ กับ เคอร์ติส โจนส์ ผนึกกำลังกันคุมกลางตามระเบียบ

ตัวแบน : –
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองกลาง – ธิอาโก้ อัลคานตาร่า (15 นัด/1 ประตู)
กองหน้า – โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (15 นัด/4 ประตู)

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีมิน เคลเลเฮอร์ – คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์, โจ โกเมซ, อิบราฮิม่า โกนาเต้, คอนสแตนตินอส ซิมิคาส – อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน, เจมส์ มิลเนอร์, เคอร์ติส โจนส์ – ดิโอโก้ โชต้า, ดิว็อค โอริกี้, ทาคูมิ มินามิโนะ

นอริช

นอริช ของกุนซือ ดีน สมิธ เพิ่งจะบุกพ่ายให้กับ เซาท์แฮมป์ตัน 0-2 ทำให้สามเกมท้ายทุกรายการปราชัยรวด สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงเตะ ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม นอกเสียจาก อดัม ไอดาห์ กับ แอนดรูว์ โอโมบามิเดเล่ สองแข้งเดี้ยงหน้าเดิมซึ่งยังไม่หายดี คาดว่า สมิธ เตรียมจัดทัพในระบบ 4-3-3 โดยมี คีแรน โดเวลล์, โจชัว ซาร์เจ้นต์ กับ คริสตอส โซลิส ผนึกกำลังกันล่าตาข่ายในแดนหน้าและใช้ ลูคัส รุปป์, บิลลี่ กิลมัวร์ กับ ปิแอร์ ลีส์ เมลู เป็นสามประสานแดนกลางคอยซัพพอร์ตจากแนวหลัง

ตัวแบน : –
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองหลัง – แอนดรูว์ โอโมบามิเดเล่ (5 นัด/1 ประตู)
กองหน้า – อดัม ไอดาห์ (17 นัด/1 ประตู)

นอริช (4-3-3) : ทิม ครูล – แซม บายแรม, โอซาน คาบัค, คริสตอฟ ซิมเมอร์มันน์, ดิทิทริส จานนูลิส – ลูคัส รุปป์, บิลลี่ กิลมัวร์, ปิแอร์ ลีส์ เมลู – คีแรน โดเวลล์, โจชัว ซาร์เจ้นต์, คริสตอส โซลิส

ทรรศนะ

เกมนี้เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล น่าจะยังเดินเครื่องล่าสกอร์ต่อไป แม้แมตช์ล่าสุดจะกรำศึกหนัก 120 นาทีชนิดบีบหัวใจมาสดๆ ร้อนๆ แต่ขุมกำลังเกินกว่าครึ่งน่าจะได้พักและสลับส่งกำลังเสริมลงบู๊ แน่นอนว่ายังมีพวก ทาคูมิ มินามิโนะ, ดิโอโก้ โชต้า, เคอร์ติส โจนส์ และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ที่สภาพร่างกายค่อนข้างสมบูรณ์และพร้อมบู๊แบบไม่มีปัญหาเลย ยิ่งไปกว่านั้น ควีมิน เคลเลเฮอร์ นายทวารวัย 23 ปีที่กำลังมั่นใจก็อาจจะได้ลงเฝ้าเสาต่อเนื่องอีก บอกเลยว่าโมเมนตัมเข้าทางเจ้าบ้านเต็มสูบ สอดคล้องกับทีมเยือน นอริช ที่ปราชัยรวด 3 หนท้ายและโดนถลุงแนวรับนับไม่ถ้วนกว่า 9 ประตูเลยทีเดียว ซึ่งพวกเขาก็เพิ่งจะหวดกันมาหมาดๆ ก่อนจะเป็นอาคันตุกะที่พ่ายไปเหนาะๆ 1-3 ตอกย้ำกับสถานการณ์ในลีกน่าจะต้องโฟกัสเรื่องการหนีตายก่อน ฉะนั้นหากพวกเขาจะปล่อยถ้วยนี้ก็คงไม่แปลก เมื่อพิจารณาจากเรตกับภาพรวมของทั้งสองฝ่าย แนะนำอยู่ต่อไม่ต้องรอลงอาญา ฟันธง! จัดเต็ม “หงส์แดง” แรงเอาเรื่อง…!

ต่อ ลิเวอร์พูล 2.0

ฟันธง : “ลิเวอร์พูล ชนะ 3-0”

อัตราความมั่นใจ : 8/10

มุมแสดงทรรศนะ