แชมปป์สมัยที่5! เรอัล มาดริด รัวยิง อัล ฮิลาล 5-3 ผงาดแชมป์สโมสรโลก 2022
การแข่งขัน ฟุตบอล ฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ 2022 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด พบกับ อัล ฮิลาล ที่สนาม ต๊าด พรินซ์ มูลัย อับดัลลาห์, โมร็อกโก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
เริ่มเกมมา 13 นาที เรอัล มาดริด ได้ประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ คาริม เบนเซม่า จ่ายทะลุช่องให้ วินิซิอุส จูเนียร์ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนซัดผ่านมือ อับดุลลาห์ อัล มายุฟ ตุงตาข่าย
นาทีที่ 23 “ราชันชุดขาว” ลุยต่อ ลูก้า โมดริช เปิดบอลโด่งเข้าเขตโทษแนวรับ อัล ฮิลาล โหม่งเคลียร์ไม่ดีไปเข้าทาง เฟเด บัลเบร์เด้ วิ่งมากดสวนเสียบตาข่ายเข้าไป เรอัล มาดริด หนีห่าง 2-0
นาทีที่ 26 “แชมป์เอเชีย” ได้สวนกลับเร็ว โมฮาเหม็ด คานโน จ่ายบอลขึ้นหน้าให้ มุสซ่า มาเรก้า หลุดเดี่ยวจากกลางสนามก่อนกระชากไปกดซุกก้นตาข่าย อัล ฮิลาล ไล่มา 1-2 พร้อมหมดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
กลับมาเล่นครึ่งหลังนาทีที่ 54 “ราชันชุดขาว” เดินเกมบุกต่อเนื่อง วินิซิอุส จูเนียร์ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนเปิดไปหน้าประตูให้ คาริม เบนเซม่า ชาร์จเข้าไป เรอัล มาดริด นำ 3-1
นาทีที่ 58 เรอัล มาดริด ทิ้งห่าง 4-1 จากจังหวะที่ ดานี่ การ์บาฆาล เติมเกมขึ้นมาทางขวาก่อนเปิดให้ เฟเด บัลเบร์เด้ ยกบอลข้ามหัว อับดุลลาห์ อัล มายุฟ ซุกก้นตาข่าย เรอัล มาดริด ทิ้งห่าง 4-1
นาทีที่ 63 อัล ฮิลาล ไล่มาเป็น 2-4 จากจังหวะที่ ซาอุด อับดุลฮามิด ผ่านบอลให้ ลูเซียโน่ เวียตโต้ หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษก่อนชิพข้ามตัว อังเดร ลูนิน เข้าไปอย่างเหนือชั้น
นาทีที่ 69 “แชมป์ยุโรป” ครองเกมบุกต่อ ดานี่ เซบายอส รับบอลในเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนยิงไปแฉลบแนวรับเข้าทาง วินิซิอุส จูเนียร์ ปั่นโค้งเสียบเสาเข้าไป เรอัล มาดริด ทิ้งเป็น 5-2
นาทีที่ 79 ตัวแทนจากเอเชีย สู้ไม่ถอย มิเชล ตัวสำรองฉกบอลไปได้ก่อนไหลให้ ลูเซียโน่ เวียตโต้ หมุนตัวยิงเข้าไปสุดสวย อัล ฮิลาล ไล่มาเป็น 3-5
จบเกม “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด รัวถล่ม อัล ฮิลาล 5-3 คว้าแชมป์ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ ได้เป็นสมัยที่ 5 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
เรอัล มาดริด (4-3-3) : อังเดร ลูนิน – ดานี่ การ์บาฆาล (เฆซุส บาเยโฆ่ น.79), อันโตนิโอ รือดิเกอร์, ดาบิด อลาบา, เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า – โทนี่ โครส (มาร์โก อเซนซิโอ น.74), อูเรเลียง ชูอาเมนี่ (ดานี่ เซบายอส น.62), ลูก้า โมดริช (นาโช่ เฟร์นันเดซ น.74) – เฟเด บัลเบร์เด้, คาริม เบนเซม่า (โรดริโก้ โกเอส น.62), วินิซิอุส จูเนียร์
อัล ฮิลาล (4-2-3-1) : อับดุลลาห์ อัล มายุฟ – ซาอุด อับดุลฮามิด, จาง ฮุน-ซู, อาลี อัลเบเลฮี, นาสเซอร์ อัล ดอว์ซารี่ – โมฮาเหม็ด คานโน, กุสตาโว่ คูเอลลาร์ – อังเดร การ์ริโญ่, ลูเซียโน่ เวียตโต้, ซาเลม อัล-ดอว์ซารี่ – มุสซ่า มาเรก้า
มุมแสดงทรรศนะ