ข่าวฟุตบอลข่าวฟุตบอลทีมชาติ

ปรีวิว ทีมชาติบาห์เรน พบ ทีมชาติไทย ในเย็นวันนี้

ufasexygame


”โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กุนซือขัดตาทัพทีมชาติไทย ลั่นขอพาทีมกลับมาเล่นบอลถูกใจแฟนใน 2 เกมที่เหลือ ด้าน 11 ตัวจริงคาดมีการปรับเปลี่ยนถึง 4 ตำแหน่งจากชุดพ่ายอินเดีย 1-4 ขณะที่สถิติชี้ชัดเจอกัน 7 ครั้ง บาห์เรนทำได้ดีกว่า ชนะ 2 เสมอ 4 ส่วนไทยชนะแค่ครั้งเดียว ตั้งแต่การเจอกันหนแรกเมื่อปี 1980 และหลังจากนั้นแข้ง ”ช้างศึก” ยังไม่เคยชนะได้อีกเลย มาเป็นเวลาเกือบ 39 ปีเต็ม แข่งขันวันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2562 ณ สนามอัล มัคตูม สเตเดี้ยม, นครดูไบ เวลาไทย 18.00 น. ช่อง 7 เอชดี ยิงสด

ทีมชาติไทยขอกู้ศรัทธารวมพลังสู้-สถิติบ่งชี้ไม่ชนะบาห์เรนกว่า39ปี

 

ความเคลื่อนไหวของขุนพลทัพ ”ช้างศึก” ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ที่เตรียมทีมลงทำศึกฟุตบอล ”เอเชียน คัพ 2019” รอบสุดท้าย นัดที่สองในกลุ่ม เอ พบกับทีมชาติบาห์เรน หลังจากเกมแรกแพ้อินเดีย 1-4 และมีการปลด มิโลวาน ราเยวัช ไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อวันพุธที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2562 ที่สนามอัล มัคตูม สเตเดี้ยม, นครดูไบ ทาง ”โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กุนซือขัดตาทัพชั่วคราว ได้นำขุนพลลุ่มน้ำเจ้าพระยาทั้ง 23 คน เดินทางมาฝึกซ้อมมื้อสุดท้ายที่สนามจริง ก่อนลงดวลเกมนัดที่สองกับบาห์เรน ซึ่งการฝึกซ้อมในวันนี้เน้นไปที่การยืดเส้นยืดสาย รวมถึงการส่งบอลเท้าสู่เท้า ซึ่งใช้เวลาฝึกซ้อม 1 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น

ทาง ”โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กล่าวว่า ”เกมกับบาห์เรน เราต้องทำให้ดีที่สุด ตรงนี้มองว่าเราเลยความกดดันไปแลัว ก็อยากทำฟุตบอลให้แบบที่คนไทยมีความสุขกับการเล่นของน้องๆ เท่าที่สัมผัสทุกคนยังพร้อมสู้ใน 2 เกมที่เหลือ ทุกคนไม่เครียด ยังแฮปปี้อยู่ ด้านการปรับแท็กติกให้เป็นเกมรุกแบบเอาใจแฟนๆ ตนเองยังบอกไม่ได้ เพราะเพิ่งรับงาน แต่จะทำให้เต็มที่อย่างแน่นอน”

ทีมชาติไทยขอกู้ศรัทธารวมพลังสู้-สถิติบ่งชี้ไม่ชนะบาห์เรนกว่า39ปี

 

คาด11ตัวจริงไทยบู๊บาห์เรนเปลี่ยน4ตำแหน่ง

ภายหลังจากที่ทัพ ”ช้างศึก” ทีมชาติไทย แพ้ให้กับ อินเดีย 1-4 ในเกมประเดิมสนามศึก ”เอเชียน คัพ 2019” ก่อนจะมีการปลด มิโลวาน ราเยวัช พ้นออกจากตำแหน่งเก้าอี้กุนซือใหญ่ โดยดัน ”โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย และ ”โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์ ขึ้นมาเป็นกุนซือขัดตาทัพชั่วคราว ประเดิมพบบาห์เรน ในวันที่ 10 ม.ค. 62 นี้ โดยถูกบีบบังคับให้พลาดอีกไม่ได้แล้ว

ล่าสุด มีรายงานจากนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ว่า ทีมงานสตาฟฟ์โค้ชเตรียมปรับเปลี่ยนผู้เล่นถึง 4 ตำแหน่งด้วยกัน โดย อดิศักดิ์ ไกรษร จะถูกขยับไปเล่นฝั่งซ้ายแทน ศุภชัย ใจเด็ด และดัน ทริสตอง โด ขึ้นมาเล่นฝั่งขวาแทน โดยมี ธีรศิลป์ แดงดา ยืนค้ำเป็นหน้าเป้า ส่วนแผงกองกลาง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ จะกลับมาลงสนามในตำแหน่งตัวรับ คู่กับ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ โดย ชนาธิป สรงกระสินธ์ จะยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวรุก

ด้านแผงหลังมีการปรับเปลี่ยนถึง 2 ตำแหน่ง สุพรรณ ทองสงค์ จะลงมายืนจับคู่กับ พรรษา เหมวิบูลย์ แทน เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว แบ็กซ้ายยังเป็น ธีราทร บุญมาทัน ส่วนแบ็กขวาจะเป็น อดิศร พรหมรักษ์ และผู้รักษาประตูยังคงเป็น ฉัตรชัย บุตรพรหม เช่นเดิม

โดย 11 ตัวแรกของทีมชาติไทย ที่คาดว่าจะลงสนาม มาในระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย ฉัตรชัย บุตรพรหม (ผู้รักษาประตู), พรรษา เหมวิบูลย์, สุพรรณ ทองสงค์, ธีราทร บุญมาทัน, อดิศร พรหมรักษ์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ชนาธิป สรงกระสินธ์, อดิศักดิ์ ไกรษร, ทริสตอง โด, ธีรศิลป์ แดงดา

ทีมชาติไทยขอกู้ศรัทธารวมพลังสู้-สถิติบ่งชี้ไม่ชนะบาห์เรนกว่า39ปี

 

สถิติบ่งชี้ไทยไม่ชนะบาห์เรนกว่า 39 ปี 

ขุนพลลุ่มน้ำเจ้าพระยา ทีมชาติไทย เคยพบกับทีมชาติบาห์เรน ในเกมอย่างเป็นทางการทั้งหมด 7 ครั้ง บาห์เรนทำได้ดีกว่า ชนะ 2 เสมอ 4 ส่วนไทยชนะแค่ครั้งเดียว ตั้งแต่การเจอกันหนแรกเมื่อปี 1980 และหลังจากนั้นแข้ง ”ช้างศึก” ยังไม่เคยชนะได้อีกเลยมาเป็นเวลาเกือบ 39 ปีเต็ม

โดย 7 เกมหลังสุดที่พบกันประกอบไปด้วย วันที่ 31 ส.ค. 1980 ไทย ชนะ บาห์เรน 1-0 ศึกพรีซิเดนต์ คัพ (บูซาน, เกาหลีใต้), วันที่ 6 ก.ย. 2001 บาห์เรน เสมอ ไทย 1-1 ฟุตบอลโลก 2002 รอบคัดเลือก (มานามา, บาห์เรน), วันที่ 16 ต.ค. 2001 ไทย เสมอ บาห์เรน 1-1 ฟุตบอลโลก 2002 รอบคัดเลือก (กรุงเทพฯ, ไทย), วันที่ 5 ก.ค. 2004 ไทย แพ้ บาห์เรน 0-2 อุ่นเครื่อง (กรุงเทพฯ, ไทย), วันที่ 2 มิ.ย. 2008 ไทย แพ้ บาห์เรน 2-3 ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก (กรุงเทพฯ, ไทย), วันที่ 7 มิ.ย. 2008 บาห์เรน เสมอ ไทย 1-1 ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก (ริฟฟ่า, บาห์เรน) และวันที่ 5 มิ.ย. 2015 ไทย เสมอ บาห์เรน 1-1 อุ่นเครื่อง (กรุงเทพฯ, ไทย)

อย่างไรก็ตาม สถิติการลงเล่นในแดนอาหรับของขุนพลลุ่มน้ำเจ้าพระยา ในรายการนี้ มักผลงานได้ไม่ดีมากนัก หลังลงสนามบนแผ่นดินอาหรับมาทั้งหมด 15 นัด, เสมอ 5 นัด แพ้ไปถึง 9 นัด และเอาชนะได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ย้อนไปเมื่อคราวศึก ”เอเชียน คัพ” ปี 1988 รอบคัดเลือก ที่ยูเออี โดยเฉือนอินเดีย 1-0 นั่นเอง

สำหรับเกมการแข่งขัน ”เอเชียน คัพ 2019” รอบสุดท้าย ของกลุ่ม เอ นัดที่สองระหว่าง ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติบาห์เรน จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2562 ที่สนามอัล มัคตูม สเตเดี้ยม, นครดูไบ เวลา 18.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 เอชดี

ทีมชาติไทยขอกู้ศรัทธารวมพลังสู้-สถิติบ่งชี้ไม่ชนะบาห์เรนกว่า39ปี
ทีมชาติไทยขอกู้ศรัทธารวมพลังสู้-สถิติบ่งชี้ไม่ชนะบาห์เรนกว่า39ปี
ทีมชาติไทยขอกู้ศรัทธารวมพลังสู้-สถิติบ่งชี้ไม่ชนะบาห์เรนกว่า39ปี

 

มุมแสดงทรรศนะ