Team of the week : ทีมยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์พรีเมียร์ลีก นัดที่ 6

ทีมยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์พรีเมียร์ลีก นัดที่ 6 นำทัพมาโดยผู้เล่นจากแมนฯซิตี้ ส่วนตำแหน่งอื่นๆจะมีใครติดมาบ้าง ไปดูกันได้เลย

ผู้รักษาประตู : อาเดรียน (ลิเวอร์พูล)

 

 

ช็อตเซฟลูกหลุดเดี่ยวของแทมมี่ อับราแฮม คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ลิเวอร์พูล ยังคงสกอร์ที่นำอยู่ไว้ได้ ซึ่งสถิติที่ออกมาถึงแม้เขาจะเสียประตูบ่อยครั้ง แต่ตลอด 9 เกมหลังสุดที่นายด่านรายนี้ลงเฝ้าเสาก็ไม่เคยเสียเกินนัดละหนึ่งประตูและช่วยทีมคว้าชัยได้ถึง 8 นัด ส่วนอีกหนึ่งนัดคือเสมอ

กองหลัง : ริคาร์โด้ เปเรยร่า (เลสเตอร์)

ซัดประตูใส่สเปอร์ส ในช่วงเวลาสำคัญก่อนที่ทัพจิ้งจอกจะพลิกเอาชนะได้ แบ็กโปรตุกีสยิงได้ 3 ประตูจากการลงเล่น 41 นัด ซึ่งประตูทั้งหมดเกิดจากการเล่นที่สนามคิง เพาเวอร์

กองหลัง : เนธาน อาเก้ (บอร์นมัธ)

ทำประตูให้บอร์นมัธ ออกนำเซาธ์แฮมป์ตัน ประตูนี้เป็นลูกที่ 11 ที่เขาทำได้ซึ่งทั้งหมดจุดเริ่มต้นมาจากลูกเตะมุม

กองหลัง : แจ็ก โอ’คอนเนลล์ (เชฟฯยูไนเต็ด)

 

 

ความจริงแนวรับทุกคนของทีมดาบคู่ สามารถติดทีมยอดเยี่ยมได้ทุกคน อย่างไรก็ตามที่ต้องเลือกโอ’คอนเนลล์ เพราะเขาโดดเด่นที่สุดเหนือใคร โดยเคลียร์บอลได้ถึง 16 ครั้งและป้องกันเกมบุกของเอฟเวอร์ตันได้เยี่ยมยอด

กองหลัง : ฟาเบียน ชาร์ (นิวคาสเซิล)

ช่วยทีมเก็บคลีนชีต โดยนับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาลที่แล้ว นิวคาสเซิล มีเปอร์เซ็นต์ชนะ 43% ยามที่มีฟาเบียน ชาร์ลงสนาม (ชนะ 12 จาก 28 เกม) ซึ่งเปรียบเทียบในทางตรงข้ามหากไม่มีเขา สาลิกาดงชนะได้เพียง 6% ( ชนะ 1 จาก 16 เกม)

กองกลาง : แบร์นาร์โด้ ซิลวา (แมนฯซิตี้)

 

 

แฮตทริกเดียวของพรีเมียร์ลีก สัปดาห์นี้ แบร์นาร์โด้ ทำมันได้ครั้งแรกในชีวิต จากจำนวน 178 เกมที่ลงเล่นบนลีกสูงสุดทั้งใน อังกฤษ, ฝรั่งเศส และโปรตุเกส

กองกลาง : เควิน เดอ บรอยน์ (แมนฯซิตี้)

 

 

ใช้เวลาไม่กี่วินาที ครอสบอลสุดสวยให้ดาบิด ซิลบา เข้าชาร์จพาแมนฯซิตี้ออกนำ เดอ บรอยน์ คือแม่ทัพเกมรุกของซิตี้อย่างแท้จริง

นับตั้งแต่เขาเปิดตัวกับทีม เมื่อกันยายน 2015 ไม่มีใครในลีกอังกฤษ ทำแอสซิสต์มากไปกว่าเดอ บรอยน์อีกแล้ว

กองกลาง : เจมส์ แมดดิสัน (เลสเตอร์)

จอมทัพของฝูงสุนัขจิ้งจอก ทำประตูชัยสุดงามพาทีมแซงเอาชนะสเปอร์ส แม้ช่วงท้ายเกมบาดเจ็บข้อเท้าพลิกแต่เจ้าตัวก็ฝืนลงมายืนให้ครบ 11 คน เพราะเบรนแดน ร็อดเจอร์ส เปลี่ยนตัวครบไปแล้ว

นอกจากนี้ ประตูที่เขาทำได้ เป็นอันยุติความพยายามที่จะทำสกอร์ 31 ครั้งในพรีเมียร์ลีก ที่ไม่เป็นผลเลย

กองหน้า : ริยาด มาห์เรซ (แมนฯซิตี้)

 

 

ได้โอกาสจากเป๊ป ลงตัวจริงแทนราฮีม สเตอร์ลิง แล้วเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ทำได้ทั้งประตูและแอสซิสต์ รวมถึงเรียกจุดโทษให้กับทีมได้อีกด้วย

กองหน้า : คริส วู้ด (เบิร์นลี่ย์)

ก่อนหน้านี้ปล่อยให้คู่หูอย่าง แอชลี่ย์ บาร์นส์ ทำประตู โดยที่เขายิงไม่ได้เลย อย่างไรก็ตามเกมนี้ อดีตแข้งเวสบรอมวิช ทำคนเดียว 2 ประตู พาทีมเอาชนะนอริชไปได้ 2-0

กองหน้า : อันเดร ยาร์โมเลนโก้ (เวสต์แฮม)

 

 

เบิกสกอร์แรกได้สวยงามส่งขุนค้อนออกนำแมนฯยูไนเต็ด นี่คือประตูที่สองในซีซั่นนี้ เท่ากับผลงานตลอดทั้งซีซั่นก่อน อย่างไรก็ตามเมื่อปีที่แล้วเขาโดนพิษอาการเจ็บเล่นงานเป็นส่วนใหญ่