ตำนานกองหน้า เบอร์ 9 ลิเวอร์พูลก่อน โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ใครเจ๋ง ใครเจ๊ง

ลิเวอร์พูล ถือว่าเป็นทีมที่แทบจะไม่เคยขาดยอดดาวยิงชั้นดีเลยก็ว่าได้ เพราะนับตั้งแต่ เอียน รัช ย้ายออกจากทีมไปเมื่อปี 1996 พวกเขาก็มีแข้งหนุ่มจากอะคาเดมี่อย่าง ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ขึ้นมาแทนที่ นอกจากนั้นยังมีการเสริมทัพเข้ามาของ สแตน คอลลีมอร์ หัวหอกจอมดีเดือด และการเลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ของ ไมเคิล โอเว่น ทว่าใน 2 รายหลังนี้ไม่มีโอกาสได้สวมเสื้อหมายเลข 9 อันเป็นสัญลักษณ์ของยอดดาวยิง

สำหรับเสื้อหมายเลข 9 ของ ลิเวอร์พูล ถือว่าเป็นเบอร์ของยอดดาวยิงอย่างแท้จริง เพราะได้รับการสืบต่อกันมาอย่างยาวนานไล่มาตั้งแต่ยุคของ เอียน รัช จนมาถึงปัจจุบันที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ทว่าระหว่างทางก่อนจะมาถึงมือหัวหอกทีมชาติบราซิล นั้นก็มีบ้างที่แข้งบางรายโชว์ฟอร์มไม่ออกจนต้องย้ายออกไป หรือยิงได้เป็นกอบเป็นกำแล้วอยากย้ายทีมเองก็มี

ย้อนดู หัวหอกหมายเลข 9 ของหงส์แดงก่อนจะมาถึง บ๊อบบี้ ฟีร์มิโน่

9) ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ : 1993-2001, 2006-2007

อดีตดาวยิงพลาสเตอร์ยา ก้าวขึ้นมาจากอะคาเดมี่ของ ลิเวอร์พูล เอง และสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม จนได้รับการสืบทอดเสื้อหมายเลข 9 ต่อจาก เอียน รัช ดาวยิงรุ่นพี่ที่ย้ายออกไป โดยทาง ฟาวเลอร์ โดนปล่อยตัวออกไปเมื่อปี 2001 และได้กลับมาช่วยทีมคว้าแชมป์เป็นกอบเป็นกำอีกครั้งในฤดูกาล 2006-2007

– ลงสนาม 369 นัด

– ยิงได้ 183 ประตู

 

8) นิโกล่าส์ อเนลก้า : 2001-2002

หลังจากที่ เชราร์ด อุลลิเยร์ ตัดใจปล่อย ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ไปให้ ลีดส์ ใช้งาน เขาก็ไปติดต่อขอยืมตัว นิโก้ มาจาก เปแอสเช ด้วยสัญญา 6 เดือน ซึ่งผลงานที่ดาวยิงเฟรนช์แมนฝากไว้ก็ถือว่าไม่ได้แย่อะไรนัก แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้สัญญาถาวร

– ลงสนาม 22 นัด

– ยิงได้ 5 ประตู

 

7) เอล ฮัดจิ ดิยุฟ : 2002-2005

แข้งทีมชาติเซเนกัล แจ้งเกิดในฟุตบอลโลก 2002 ได้สำเร็จ จนทำให้ เฮียโปน ยอมทุ่มเงิน 12.75 ล้านปอนด์ ดึงเขามาร่วมทีม และไม่เลือกที่จะเซ็นสัญญาถาวรกับ นิโกล่าส์ อเนลก้า ทว่าผลงานของ กองหน้าจอมถุย นั้นไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนอกจากความเร็วที่ถูกโยกจากกองหน้าไปเป็นปีกขวาแทนซะงั้น แล้วด้วยเหตุผลที่ว่ามานี้เขาไม่มีอะไรควรค่าให้น่าจดจำ

– ลงสนาม 80 นัด

– ยิงได้ 6 ประตู

 

6) ฌิบริล ซิสเซ่ : 2004-2007

ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศส ย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวสูงถึง 17 ล้านปอนด์ ซึ่งแน่นอนว่าเขาถูกตั้งความหวังเอาไว้มาก แต่เล่นได้ไม่เท่าไรเขาก็โดน เจมส์ แม็คอีฟลี่ย์ แข้งแบล็คเบิร์นเสียบจนขาหัก 2 ท่อน และต้องใช้เวลาอย่างยาวนานกว่าจะกลับมาลงเล่นได้อีกครั้ง แต่อย่างน้อยเราก็จดจำเขาได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นชุดเจ้าของแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2005

– ลงสนาม 82 นัด

– ยิงได้ 24 ประตู

 

5) เฟร์นานโด ตอร์เรส : 2007-2011

อดีตหัวหอกแก้มแดง ย้ายจาก แอต.มาดริด มาด้วยค่าตัว 32 ล้านปอนด์ และเขาถือว่าเป็นผู้เล่นเบอร์ 9 ที่เหล่า เดอะ ค็อป รักมากที่สุดคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ภายหลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมนับตั้งแต่เกมแรกที่ลงสนาม และฝากผลงานอันน่าจดจำเอาไว้มาก แต่สุดท้ายเขากลับกลายเป็น จูดาส ของสาวกหงส์แดงทั่วโลก เมื่อเกิดอาการงอแงอย่างหนักเพื่อให้ได้ย้ายไปอยู่กับ เชลซี

– ลงสนาม 142 นัด

– ยิงได้ 81 ประตู

 

4) แอนดี้ แคร์โรล : 2011-2013

เมื่อเสีย ตอร์เรส ไป ทางด้าน เคนนี่ ดัลกลิช ที่เข้ามารับงานเป็นกุนซืออีกสมัยได้ตัดสินใจว่าจะต้องเอาดาวยิงที่ชื่อเสียงไม่แพ้กันเขามาแทนที่ ซึ่งเขาก็เลือกทุ่มเงินเป็นสถิติสโมสรที่ 35 ล้านปอนด์เพื่อเอาหัวหอกวัยรุ่นร่างยักษ์เข้ามาร่วมทีม แต่เขากลับต้องใช้เวลาในการพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บมากกว่าลงสนาม และเมื่อมีโอกาสลงเล่นก็เค้นฟอร์มเก่งไม่ได้จนสุดท้ายเขาถูกปล่อยตัวออกจากทีม และนี่คือดีลที่น่าผิดหวังเอามาก ๆ

– ลงสนาม 58 นัด

– ยิงได้ 11 ประตู

 

3) ยาโก้ อัสปาส : 2013-2014

ศูนย์หน้าสแปนิช เป็นแข้งในยุคของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่ฟอร์มดีเหลือเกินก่อนจะย้ายมายังแอนฟิลด์ แต่พอย้ายมาเท่านั้นแหละกลับไม่สามารถทำผลงานที่ดีออกมาได้เหมือนอย่างตอนเล่นในสเปนได้เลย ทำให้เขาก็ถูกปล่อยกลับไปอยู่เซลต้าอีกครั้งในฤดูกาลถัดมา แน่นอนเขายิงประตูเป็นรองเพียงแค่ ลิโอเนล เมสซี่ กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เท่านั้น

– ลงสนาม 15 นัด

– ยิงได้ 1 ประตู

 

2) ริคกี้ แลมเบิร์ต : 2014-2015

สำหรับ แลมเบิร์ต การได้ย้ายมาเล่นให้ ลิเวอร์พูล ถือเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์เขาเป็นอย่างมาก เพราะในอดีตเขาเคยเป็นเด็กในอะคาเดมี่หงส์แดงมาก่อน ทว่าแจ้งเกิดไม่สำเร็จ และการย้ายมาครั้งนี้ของเขาก็เช่นกัน เขาไม่สามารถแจ้งเกิดได้เหมือนเช่นเคย และถูกปล่อยตัวออกจากทีมภายในปีเดียว

– ลงสนาม 36 นัด

– ยิงได้ 3 ประตู

 

1) คริสเตียน เบนเตเก้ : 2015-2016

กองหน้าทีมชาติเบลเยียม เจ้าของค่าตัว 32.5 ล้านปอนด์ เป็นผลงานการใช้เงินก้อนโตแบบไม่ได้เรื่องชิ้นสุดท้ายของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ก่อนที่เขาจะถูกไล่ออก และแทนที่โดย เจอร์เก้น คล็อปป์ ซึ่งเหตุผลที่ บีร็อด ซื้อหัวหอกร่างยักษ์เข้ามาก็ไม่ใช่อะไร เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ ลิเวอร์พูล เจอกับ แอสตัน วิลล่า เมื่อนั้นต้องมีชื่อ เบนเตเก้ บนสกอร์บอร์ด

– ลงสนาม 42 นัด

– ยิงได้ 10 ประตู