นับถอยหลัง 365 วันยูโร 2024
กลับกันมาอีกครั้งกับรายการฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรปอย่างรายการฟุตบอลชิงเเชมป์ยุโรป (European Championship) หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในชื่อฟุตบอลยูโร ซึ่งในรายการประจำปี 2024 ถือเป็นการแข่งขันสมัยที่ 17 และจะพาไปเตะกันที่ประเทศเยอรมนี เจ้าของแชมป์โลก 4 สมัยและแชมป์เก่ายูโร 3 สมัยในปี 1972, 1980, และ 1996 ในวันนี้บทความของเราก็จะมาพาทุกคนไปทำความรู้จักรายการแข่งขันฟุตบอลประจำทวีปยุโรปรายการนี้กันครับ
สถานที่แข่งขัน
การแข่งขันยูโร 2024 ในเยอรมนีครั้งนี้จะมีการแบ่งสนามแข่งขันออกเป็น 10 สนามจาก 10 เมืองซึ่งหลายสนามก็เคยถูกใช้งานตอนที่เยอรมนีเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2006 มาแล้ว โดยรายชื่อสนามต่าง ๆ ได้แก่
- สนามโอลิมเปียสตาดิโอน กรุงเบอร์ลิน (สนามเหย้า แฮร์ธา เบอร์ลิน)
- สนามอาลิอันซ์อารีนา เมืองมิวนิก (สนามเหย้า บาเยิร์น มิวนิก)
- สนามซิกนัล อิดูนา พาร์ก เมืองดอร์ตมุนด์ (สนามเหย้า โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์)
- สนามเวลตินส์-อารีน่า เมืองเกลเซนเคียร์เช่น (สนามเหย้า ชาลเก้ 04)
- สนามโฟลค์สพาร์กสตาดิโอน เมืองฮัมบูร์ก (สนามเหย้า ฮัมบูร์ก)
- สนามเเมร์คูร์ ชปีล-อารีนา เมืองดุสเซลดอร์ฟ (สนามเหย้า ดุสเซลดอร์ฟ)
- สนามไรน์เอเเนร์กี เมืองโคโลญจน์ (สนามเหย้า โคโลญจน์)
- สนามเอมเอชพีอารีนา เมืองสตุทการ์ต (สนามเหย้า สตุทการ์ต)
- สนามดอยเชอร์แบงก์พาร์ก เมืองแฟรงก์เฟิร์ต (สนามเหย้า ไอน์ทรัก แฟรงก์เฟิร์ต)
- สนามเรดบูลอารีนา เมืองไลป์ซิก (สนามเหย้า แอร์เบ ไลป์ซิก)
ระยะเวลาเเข่งขัน
การแข่งขันรายการยูโร 2024 ในรอบแบ่งกลุ่มจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายน 2024 โดยจะเป็นเกมระหว่างเจ้าบ้านเยอรมนีกับทีมจากกลุ่มเอ โดยจะเตะเกมเปิดสนามกันที่สนามอาลิอันซ์อารีนา เมืองมิวนิก ก่อนที่ทุกทีมจะโคจรเตะกันไปทั่วประเทศเยอรมนีก่อนจะจบรายการแข่งขันที่สนามโอลิมเปียสตาดิโอน กรุงเบอร์ลิน ในวันที่ 14 กรกฎาคม 2024 คิดเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือนเป๊ะ ๆ จากการคิกออฟเกมแรกจนถึงการคิกออฟเกมนัดชิงครับ แต่จะมีการจับฉลากรอบแบ่งกลุ่มต่อไปในช่วงเดือนธันวาคมนี้ ก่อนจะมีการประกาศตารางการแข่งขันยูโร 2024 ฉบับเต็มต่อไป
เต็งแชมป์ยูโร 2024
เเม้ว่าจะมีเวลาอีกเกือบ ๆ หนึ่งปีก่อนจะเริ่มคิกออฟ แต่ก็เริ่มมีบ่อนพนันถูกกฎหมายของหลายประเทศออกมาเปิดอัตราแทงกันแล้วครับ โดยไม่มีการพลิกโฟใด ๆ ทั้งสิ้นที่รองแชมป์โลก 2022 และแชมป์โลก 2018 อย่างฝรั่งเศสภายใต้การนำทีมของคิลเลียน เอ็มบัปเป้จะถือเป็นเต็งหนึ่งของรายการ ตามมาด้วยขวัญใจคนไทยตลอดกาล ทีมชาติอังกฤษ ที่แม้จะทำฟอร์มได้ไปถึงเพียงรอบ 8 ทีมสุดท้ายของรายการฟุตบอลโลก 2022 แต่ก็กำลังมีการเปลี่ยนถ่ายผู้เล่นเข้าสู่ยุคใหม่ภายใต้การนำทีมของจู๊ด เบลลิงแฮม ในขณะที่แชมป์เก่าอย่าง ทีมชาติอิตาลี ตกลงไปอยู่เป็นเต็ง 6 ตามหลังเจ้าภาพ เยอรมนี สเปน และโปรตุเกส และยังคงไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งดังเดิมได้
มุมแสดงทรรศนะ