ปรีวิวฟุตบอลฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก : ยูเออี – ไทย
อากิระ นิชิโนะ กุนซือทีมชาติไทย เตรียมปรับทัพ ส่ง ศศลักษณ์ ไหประโคน มีสิทธิ์ลงแทน เออร์เนสโต ภูมิภา ที่โชว์ไม่ออกในเกมแรกด้านแนวรุกสองพี่น้อง สุภโชค สารชาติ กับ ศุภณัฎฐ์ เหมือนตา น่าจะออกสตาร์ตตัวจริง โดยมี “กอล์ฟ” อดิศักดิ์ ไกรษร ยืนหน้าเป้าอีกครั้ง และมี “กันต์” ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร เป็นเพลย์เมกเกอร์ในแดนกลาง นัดนี้ไทยต้องเก็บชัยให้ได้เพื่อต่อลมหายใจการเข้ารอบ ด้านยูเออี ยังคงมีดาวยิงตัวเก่ง อาลี มับคูต ที่เพิ่งซัด 2 เม็ดในเกมชนะมาเลเซียลงสังหารต่อ เช็คสถิติย้อนหลัง 17 ปี ตั้งแต่ปี 2004 ทีมชาติไทยแพ้ให้กับยูเออี เพียงหนเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นไม่เคยปราชัยเลย และ 3 นัดหลังสุดทีมชาติไทยยังเก็บสถิติชนะ 1 เสมอ 2 ครั้ง อีกด้วย
การแข่งขันฟุตบอลโลก โซนเอเชีย รอบคัดเลือก รอบสอง กลุ่มจี ประจำวันที่ 7 มิถุนายน 2564 สนาม ซาบีล สเตเดี้ยม เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เวลา 23.45 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐทีวีช่อง 32 ระหว่างทีมชาติไทย ไทย อันดับ 3 ของตารางลงเล่น 6 นัด มี 9 แต้ม เกมล่าสุดเสมอ อินโดนีเซีย 2-2 พบกับทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ( ยูเออี ) ทีมรองจ่าฝูงของตารางที่ลงเล่น 5 นัดมี 9 คะแนนแเท่ากันแต่ประตูได้เสียยูเออีดีกว่า เกมล่าสุดถล่ม มาเลเซีย 4-0 ซึ่งคู่นี้เจอกันมาแล้วเกมแรกทีมชาติ เอาชนะมาก่อน 2-1 ที่สนามมธ.รังสิต เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 62
ความพร้อมของทัพ” ช้างศึก” ทีมชาติไทยภายใต้การคุมทัพของอากิระ นิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่นในเกมนี้ น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในหลายตำแหน่ง หลังจากได้เห็นจุดบกพร่องในเกมที่ผ่านมาที่ถือว่าเยอะมากโดยเฉพาะแนวรับฝั่งซ้าย น่าจะมาใช้บริการของ ศศลักษณ์ ไหประโคน ออกสตาร์ตตัวจริงในเกมนี้ คู่เซ็นเตอร์ดูเหมือนจะยังไม่ลงตัว มีสิทธิ์ที่จะสลับกัน พรรษา เหมวิบูลย์ ตัวเก๋ามีสิทธิ์ที่จะสอดแทรกตำแหน่งของ มานูเอล ทอม เบียรห์ หรือ สุพรรณ ทองสงค์ ได้ ขณะที่ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กับ วรวุฒิ นามเวช สองเซ็นเตอร์ ยังไม่หายเจ็บคาดว่าจะทันในเกมสุดท้าย
ด้านริมเส้นแนวรุกสองฝั่ง ทางซ้ายสุภโชค สารชาติ ทางขวา ศุภณัฎฐ์ เหมือนตา น่าจะออกสตาร์ตตัวจริงเกมนี้ด้วยเช่นกัน โดยมี “กันต์ ” ธนวัฒน์ ซึ่งจิตถาวร เป็นตัวขับเคลื่อนเกมเช่นเดิม ด้านหน้าเป้ายังเชื่อว่า อากิระ นิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่นของทีมชาติไทย ยังคงวางใจให้ อดิศักดิ์ ไกรษร ที่มีประสบการณ์เคยเจอกับยูเออีมาก่อนลงเล่นประดิมก่อนที่จะสลับเปลี่ยนให้ศุภชัย ใจเด็ด ลงมาแทนเหมือนเกมผ่านมา ส่วนตำแหน่งอื่นๆ น่าจะยึดเหมือนเกมแรกไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปปลงใดๆ
โดยเกมนี้ถือว่า มีความสำคัญอย่างมาก เพราะว่าทีมชาติไทยเปรียบเสมือนทุบหม้อข้าวแล้วต้องชนะสถานเดียวไม่เช่นนั้น โอกาสม้วนเสื่อกลับแดนสยามแทบจะร้อยเปอร์เซ็น ทาง อากิระ นิชิโนะ กุนซือทีมชาติไทยประกาศลั่นยังพร้อมสู้เต็มที่ แม้ว่าจะเป็นงานที่ดูแล้วจะต้องเหนื่อยหนักหรือยากก็ตาม
ด้าน เบิร์ต ฟาน มาไวค์ กุนซือชาวดัตช์ของทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เกมที่แล้วถือว่าทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ย้อนกลับไปดูรายชื่อ 11 ตัวจริงที่ใช่ถล่มมาเลเซีย 4-0 เทียบกับที่เคยบุกแพ้ทีมชาติไทย1-2 มีตัวเดิมเพียงแค่ 2 คนเท่านั้นคือ โมฮัมเหม็ด อัล อัททาส ที่ลงสำรองท้ายเกม และ ดาวยิงตัวเก่ง อาลี มับคูต ที่กำลังเป็นดาวซัลโวร่วมในรอบคัดเลือกหลังกดมาเลเซีย 2 เม็ด ทำให้นัดนี้ นิชิโนะ กุนซือช้างศึกเดาทางยากแน่นอน
โดยผู้เล่นที่หน้าใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงเข้ามาลงสนาม 11 ตัวจริงเกมล่าสุดได้แก่ อาลี คาซีฟ,บันดาร์ บิน โมฮาเหม็ด,ชาฮิน อับดุลเราะห์มาน,วาลิด อับบาส,มาห์มุด คามิส,อาลี ซัลมีน ,อับดัลลา รามาดาน,ฟาบิโอ ลีม่า,คาลฟาน มูบารัค,คาลิล อิบราฮิม, อาลี มับคูต และคาดว่าน่าจะเป็นชุดนี้อีกครั้งที่จะลงเจอกับทีมชาติไทยด้วย เพราะว่าระบบการเล่นความเข้าใจกันของแต่ละตำแหน่งมีความลงตัวเป็นอย่างมาก
อีกทั้งการได้เล่นในบ้านสนาม ซาบีล สเตเดี้ยม ที่จะมีแฟนบอลเข้าชม30 เปอร์เซ็นต์ ทว่าใน 30 เปอร์เซ็นต์นั้นแทนที่จะให้โควต้าแฟนบอลเท่ากัน กลับเป็นให้ทางทีมเยือน 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นในขณะที่เกมอื่นที่ไม่ใช้ยูเออีลงสนามเขาจะแบ่งเท่ากัน จึงเรียกได้ว่าเจ้าถิ่นได้เปรียบทุกกระบวนท่า
ทั้งนี้ก่อนเกมจะเริ่มขึ้นทางเบิร์ต ฟาน มาไวค์ กุนซือของทีมชาติยูเออี ประกาศชัดเจนว่าพวกเขาไม่สนใจผลการแข่งขันของทีมอื่นในกลุ่ม แต่มุ่งมั่นในทุกเกมที่ลงสนามและในสองเกมที่เหลือเจอกับทีมชาติไทยและเวียดนามจะเดินหน้าเก็บชัยชนะให้ได้สถานเดียวเท่านั้นเพื่อการเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายต่อไป
สถิติการพบกันทั้งหมดระหว่างทีมชาติไทย กับทีมชาติยูเออี พบกัน 12 นัด ไทยชนะ 3 นัด เสมอ 3 นัด ยูเออี ชนะ 6 นัด วันที่ 15/10/19 ไทย ชนะ ยูเออี 2-1 ( ฟุตบอลโลก2022 รอบคัดเลือก ) , วันที่ 14 /01/19 ยูเออี เสมอไทย 1-1 ( ฟุตบอลเอเชียนคัพ 2019 ) , วันที่ 13/06/17 ไทย เสมอ ยูเออี 1-1 (ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก ) , วันที่ 6/10/16 ยูเออี ชนะ ไทย 3-1 ( ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก ) , วันที่ 3/10/07 ไทย เสมอ ยูเออี 1-1 ( ฟุตบอลกระชับมิตรแมตช์อำลาซิโก้) , วันที่ 13/10/04 ไทย ชนะ ยูเออี 3-0 (ฟุตบอลโลก 2006 รอบคัดเลือก )
วันที่ 18/02/04 ยูเออี ชนะ ไทย 1-0 ( ฟุตบอลโลก 2006 รอบคัดเลือก ) , วันที่ 3/10/02 ไทย ชนะ ยูเออี 3-1 ( เอเชียนเกมส์ 2002),วันที่ 30/04/93 ยูเออี ชนะ ไทย 2-1 ที่ดูไบ ยูเออี ( ฟุตบอลโลก 1994 รอบคัดเลือก ), วันที่ 13/03/93 ยูเออี ชนะ ไทย 1-0 ( ฟุตบอลโลก 1994 รอบคัดเลือก ) , วันที่ 4/02/ 88 ยูเออี ชนะ ไทย 3-0 ที่ยูเออี ( เอเชียนคัพ 1988 รอบคัดเลือก) , วันที่ 23/09/86 ยูเออี ชนะ ไทย 2-1 ที่เกาหลีใต้ ( เอเชียนเกมส์ 1986 )
ทว่าก่อนพบกันหากย้อนกลับไป 17 ปี ทีมชาติไทยไม่แพ้ต่อยูเออีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น คือในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย โดยทีมชาติไทยออกไปเยือน แพ้ 1-3 เมื่อวันที่ 6 เดือนต.ค. 2016 จากนั้นการพบกันทั้งสองทีมนับตั้งแต่ปี 2004 ทีมชาติไทยไม่เคยแพ้อีกเลยจนถึงเกมล่าสุดที่พบกันก็ชนะมา 2-1
จากสถานการณ์ล่าสุดตอนนี้ เงื่อนไขการลุ้นเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายของ ทีมชาติไทย 1. ต้องชนะทั้ง 2 เกมที่เหลือ คือการพบ ยูเออี และ มาเลเซีย ให้ได้สถานเดียว 2. เชียร์เวียดนามให้คว้าแชมป์กลุ่ม3. ลุ้นให้ ยูเออี สะดุดเกมพบ อินโดนีเซีย หรือ เวียดนาม 4. ถ้าทั้งหมดเป็นไปตามนี้ ไทยจะมี 15 คะแนน จบในฐานะรองแชมป์กลุ่มจี เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น (ตัดผลเจอกับทีมอันดับสุดท้ายคือ อินโดนีเซีย ออก) ไทยจะมี 15-4 = 11 คะแนน โอกาสเข้ารอบในฐานะรองแชมป์ กลุ่มที่ดีที่สุด 4 ทีมถือว่ายังมีลุ้น
มุมแสดงทรรศนะ