ข่าวฟุตบอลข่าวฟุตบอลอื่นๆ

ฟีร์มีโน่กดชัย! ลิเวอร์พูลผงาดคว้าแชมป์สโมสรโลก

ufasexygame


สิ้นสุดการรอคอย! หลัง “หงส์แดง” คว้าแชมป์สโมสรโลกเป็นสมัยแรกได้สำเร็จ จากฮีโร่คนเดิม โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่ซัดประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษเฉือนฟลาเม็งโก้ ทีมดังจากบราซิลหวุดหวิด 1-0 ในศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ นัดชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

สนาม : คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดี้ยม, กาตาร์ (สนามกลาง)

ศึกชิงแชมป์สโมสรโลก ที่ประเทศกาตาร์ เป็นคู่ชิงชนะเลิศระหว่าง ลิเวอร์พูล แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จากอังกฤษ พบกับ ฟลาเม็งโก้ เจ้าของแชมป์โกปา ลิเบร์ตาดอเรส จากบราซิล โดยรอบรองชนะเลิศที่ผ่านมา “หงส์แดง” เบียดเอาชนะมอนเทอร์เรย์มาได้ 2-1 ขณะที่ ฟลาเม็งโก เชือดอัล ฮิลาลมา 3-1

เจอร์เก้น คล้อปป์ ได้รับข่าวดีหลัง เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ผ่านความฟิตหายเจ็บกลับมายืนคุมแนวรับ ขณะที่ 3 แนวรุกตัวฉกาจกลับมาใช้ตัวหลักทั้ง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่ และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ส่วนทางด้าน ฟลาเม็งโก้ ฝากความหวังไว้ที่ กาเบรียล บาร์โบซ่า, บรูโน่ เอ็นรีเก้ และเอเวอร์ตอน

ออกสตาร์ทเกมมาไม่ถึงนาที “หงส์แดง” เกือบเป็นฝ่ายชิงขึ้นนำไปก่อน จากจังหวะที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หนุนบอลยาวตัดแนวรับฟลาเม็งโก้  โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เอาบอลลงก่อนจะหลักไม่ดีซัดด้วยขวาเหินคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

จากนั้น นาทีที่ 5 ลิเวอร์พูล พลาดขึ้นนำอีกหน บอลยาวตัดเซ็นเตอร์แบ็กฟลาเม็งโก้ให้ ซาลาห์ หลุดเข้าไปแต่ไม่มีมุมยิงก่อนไหลคืนหลังให้ นาบี เกอิต้า วิ่งมาแปด้วยขวาบอลเหินคานไปอีก

ทีมดังจากบราซิลยังตั้งตัวไม่ติด อีกนาทีถัดมา แชมเบอร์เลน จ่ายให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ตะบันด้วยขวานอกกรอบบอลพุ่งเฉียดเสาสองไปแบบได้เสียว

นาที 26 แนวรับหงส์แดงเกือบเสียท่าหลัง ปาโบล มารี วางบอลยาวตัดหลัง เทรนท์ ให้ บรูโน่ เอ็นรีเก้ หลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายเสาแรก แต่ยังดีที่ โจ โกเมซ วิ่งตามมาบล็อคลูกยิงไว้ได้ทัน

นาที 43 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ชวดได้ลุ้นอย่างน่าเสียหาย หลังวิ่งไปรับบอลของ อ็อกซ์เล็ด-แชมเบอร์เลน แต่จับไม่อยู่ บอลเลยไปเข้ามือ ดีเอโก้ อัลเวส

จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ยังเสมอกับ ฟลาเม็งโก้ 0-0

กลับมาบู๊กันต่อในครึ่งหลัง แค่นาที 47 โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เกือบยิงให้หงส์แดงขึ้นนำ หลังจอร์แดน เฮนเดอร์สัน จ่ายบอลตัดแนวรับให้หัวหอกชาวแซมบ้าหลุดเข้าไปในกรอบก่อนจะยกบอลข้ามหัว โรดริโก้ ไคโย่ แล้ววอลเลย์ด้วยซ้ายบอลพุ่งไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย

“หงส์แดง” โหมบุกต่อเนื่อง นาทีที่ 50 เกือบได้ขึ้นนำอีกหลัง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ครอสบอลมาเสาแรกให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงด้วยขวาถากเสาแรกออกไป

ฟลาเม็งโก้ เริ่มตั้งเกมได้ นาที 53 เด อาร์ราสกาเอต้า จ่ายต่อให้ กาเบรียล บาร์โบซ่า ได้กดด้วยซ้ายนอกกรอบแต่บอลลอยเหินคานออกไป

ถัดมาอีกนาที เอเวอร์ตอน จ่ายทะลุช่องให้  กาเบรียล บาร์โบซ่า หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาแต่ยังไม่ผ่านมือ อลีสซง ที่พุ่งปัดมือเดียวออกหลังหวุดหวิด

นาที 67 อีกครั้งที่  กาเบรียล บาร์โบซ่า ได้โอกาสยิงหลังหลุดมาเสาแรกหวดด้วยขวาเน้นๆแต่บอลไปติดบล็อค ฟาน ไดค์

นาที 75 เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องแก้เกมหลัง อ็อกซ์เล็ด-แชมเบอเลน มีอาการเจ็บจนต้องส่ง อดัม ลัลลาน่า ลงเล่นแทน

นาที 80  แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กระชากบอลถึงเส้นหลังก่อนหักมาถึง โม ซาลาห์ แล้วดีดต่อให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยิงด้วยขวาเต็มแรงแต่บอลยังไม่ตรงตัว ดีเอโก้ อัลเวส

นาที 86 คราวนี้ โม ซาลาห์ ได้บอลในกรอบก่อนดึงจังหวะแล้วไหลสั้นๆให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน วิ่งมาปั่นบอลด้วยขวา บอลพุ่งจน ดีเอโก้ อัลเวส ต้องบินปัดมือเดียวออกหลังไป

ช่วงทดเจ็บ นาที 90+1 ราฟินญ่า ไปเสียบ ซาดิโอ มาเน่ ที่หลุดเข้าไปในกรอบ ก่อนดาวยิงชาวเซเนกัลจะยิงหลุดกรอบไป ทว่าผู้ตัดสินชาวกาตาร์วิ่งมาชี้เป็นจุดโทษ หลังมองว่าแนวรับฟลาเม็งโกเสียบมาเน่ในกรอบ ก่อนที่ ราฟินญ่า จะมาประท้วงจนโดนใบเหลือง สุดท้ายอับดุลราห์มาน อัล ยาสซิม ต้องวิ่งไปดูจอ VAR ข้างสนามก่อนจะยกเลิกไม่ให้จุดโทษหงส์แดง เนื่องจากราฟินญ่าเสียบไม่โดน มาเน่ นอกกรอบเขตโทษ

จบเกม ลิเวอร์พูล เสมอกับ ฟลาเม็งโก 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที

เข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษ นาที 99 แฟนบอลหงส์แดงได้เฮลั่นสมใจ เมื่อ ลิเวอร์พูล ทะยานขึ้นนำ 1-0 บอลสวนกลับของ เฮนเดอร์สัน ที่วางยาวมาให้ ซาดิโอ มาเน่ หลุดเข้าไปก่อนดึงแนวรับแล้วไหลสั้นให้ ฟีร์มีโน่ ที่เติมเข้ามาดึงหลอกนายทวารและกองหลัง ก่อนจะซัดด้วยขวาเข้าไปไม่พลาด

นาที 108 กาเบรียล บาร์โบซ่า มีโอกาสหวดด้วยซ้ายแต่บอลก็หลุดกรอบออกไป ช่วงเวลาที่เหลือทีมดังจากบราซิลไม่สามารถทวงประตูตีเสมอได้ จบเกม ลิเวอร์พูล บดเอาชนะ ฟลาเม็งโก ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0 ผงาดคว้าแชมป์สโมสรโลกได้เป็นสมัยแรก ขณะที่อันดับ 3 ของทัวร์นาเมนท์นี้ตกเป็นของ มอนเตอร์เรย์ หลังดวลจุดโทษเอาชนะ อัล ฮิลาล 4-3 (เสมอในเวลา 2-2)

      รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, โจ โกเมซ, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – อเล็กซ์ อ็อกซ์เล็ด-แชมเบอร์เลน (อดัม ลัลลาน่า น.75), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, นาบี เกอิต้า (เจมส์ มิลเนอร์ น.100) – โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (เซอร์ดาน ชากิรี่ น.120+1), โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (ดิว็อค โอริกี น.105), ซาดิโอ มาเน่

เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์

   ฟลาเม็งโก้ (4-2-3-1) : ดีเอโก้ อัลเวส – ราฟินญ่า, ปาโบล มารี, โรดริโก้ ไคโย่, ฟิลิเป้ ลุยส์ – แชร์ซอน (ลินคอล์น น.102), วิลเลี่ยน อาเรา (ออร์ลันโด แบร์ริโอ น.120) – เอเวอร์ตอน (ดีเอโก้ ริบาส น.82), จอร์จาน เด อาร์ราสกาเอต้า (วิตินโญ่ น.77), บรูโน่ เอ็นรีเก้ – กาเบรียล บาร์โบซ่า

เทรนเนอร์ : จอร์จ เชซุส

มุมแสดงทรรศนะ