เก็บตก 5 ประเด็นหลังเกมเรือใบฉลองแชมป์ ตอกย้ำความสมบูรณ์แบบ
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
วันที่ 21 พฤษภาคม 2023
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 เชลซี
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์
น่าเสียดายสำหรับแฟน
ก็อาจต้องโทษ อาร์เซน่อล ที่เตะตัดขาตัวเองด้วยการแพ้รวด 2 เกมหลัง ส่งผลให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลอยลำขึ้นบัลลังก์แบบไม่ต้องออกแรงมากมาย และความสำคัญของเกมพบ เชลซี ไม่เหลืออยู่ ภายหลังข้อสรุปทีมแชมป์เกิดไปตั้งแต่เมื่อวันเสาร์
เพราะโดยปกติแล้ว เกม แมนฯ ซิตี้ – เชลซี จัดอยู่ในหมวด “แมตช์ 5 ดาว” ที่ไม่ใช่ไก่ย่าง เสมอ แต่กับแมตช์นี้ เรตติ้งคงลดมาเหลือแค่ 1-2 ดาวเท่านั้น ฐานที่ไม่เหลือความหมายอะไรนอกจากลงเตะกันให้ครบโปรแกรม และการเป็น “เกมฉลองแชมป์” ชูโทรฟี่ของทาง แมนฯ ซิตี้
การที่ขาดแคลนความหมาย ทำให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ปรับทัพถึง 9 ตำแหน่ง เปิดทางให้ทั้งสำรองและดาวรุ่งได้ออกสตาร์ท เช่นเดียวกับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่ก็หมุนทัพไปเรื่อยตามประสา
แต่อย่างไรก็ตาม ก็ควรถือว่าเกมนี้ “สนุกตามอัตภาพ” และ แมนฯ ซิตี้ ก็คู่ควรจะคว้าชัยหลังจาก ฮูเลียน อัลวาเรซ เปิดสกอร์นำตั้งแต่สิบกว่านาทีแรก
โอกาสเห็นของแปลก
อย่างที่ว่า เกมนี้ก็ถือว่าสนุกไปตามอัตภาพ และยังถือเป็นโอกาสของแฟนๆ ในการจะได้เห็น “ของแปลก” แบบที่นานๆ จะได้เห็น
โดยเฉพาะฝั่ง แมนฯ ซิตี้ ที่นัดนี้ถือว่าปรับส่งสำรองแบบอุตลุด มากกว่าที่ใช้ใน เอฟเอ คัพ หรือ คาราบาว คัพ รอบต้นๆ เสียอีก
และสิ่งที่น่าพึงพอใจยิ่งกว่า ก็คือไม่ว่าจะ โคล พาล์มเมอร์, ริโก้ ลูอิส, เซร์คิโอ โกเมซ, แคลวิน ฟิลลิปส์ ไปจนถึงนายประตูมือสอง สเตฟาน ออร์เตก้า ก็ล้วนแต่เล่นได้ดีเลย ไม่แย่ ไม่มีข้อผิดพลาดเข้าตา
เป็นสัญญาณว่า เด็กๆ และตัวสำรองพวกนี้ พร้อมขึ้นมาสมทบทีมชุดใหญ่เป็นตัวสลับสับเปลี่ยนได้เลยในซีซั่นหน้า
ไม่มี ฮาแลนด์ & เดอ บรอยน์ ไม่ใช่ปัญหา
อย่างที่ว่าในข้อที่แล้ว ทั้งสำรองและดาวรุ่งที่ เป๊ป ใช้งานในนัดนี้ ต่างก็ทำงานได้ดีทั้งหมด ไม่ได้ทำให้ต้องคิดถึงตัวหลัก และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “คู่พิฆาต” เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ & เควิน เดอ บรอยน์ ที่ช่วยกันยิงช่วยกันจ่ายอย่างมันเท้าตลอดช่วงที่ผ่านมา
นานๆ ที คีย์แมนได้พักบ้าง ย่อมเป็นเรื่องดีกับโปรแกรมชิง 2 ถ้วยที่รออยู่
และก็เช่นกัน แม้ไม่มีดาวยิงเบอร์ 1 อย่าง ฮาแลนด์ (52 ประตูทุกถ้วย, 36 ประตูในลีก) แต่ ฮูเลียน อัลวาเรซ ก็ทำหน้าที่ทดแทนกันได้ดี
เห็นเงียบๆ และนั่งสำรองซะเยอะ แต่นี่คือประตูที่ 17 เข้าไปแล้วของหัวหอกแชมป์โลก สำหรับการเล่นในอังกฤษเป็นปีแรก
แลมพาร์ด เจอแต่เรื่องปวดหัว
ด้าน แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่เราเห็นโรเตชั่นทีมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเกมนี้ก็ด้วยนั้น ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะปัญหาบาดเจ็บที่ลูกทีมต้องเจอแทบไม่เว้นวัน
ในการไปเยือน เอติฮัด นัดนี้ แลมพาร์ด ต้องขาดทั้ง เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาเตโอ โควาซิช, รีซ เจมส์, เบน ชิลเวลล์ และ เมสัน เมาท์
แถมก่อนเกมนี้ ยังเสีย เจา เฟลิกซ์ เจ็บเพิ่มไปอีกคน
และด้วยปัญหาใหญ่ขนาดนี้ ก็จึงไม่น่าแปลกใจที่ เชลซี จะเอาตัวไม่รอดจากเงื้อมมื้อ แมนฯ ซิตี้ อีกนัด
จนกลายเป็นว่า เชลซี แพ้ แมนฯ ซิตี้ ตลอด 4 เกมของซีซั่นนี้ แบบที่ยิงไม่ได้สักประตูเลยด้วย
คาราบาว คัพ แมนฯ ซิตี้ กินนิ่ม 2-0
พรีเมียร์ลีก แมนฯ ซิตี้ บุกชนะ 1-0
เอฟเอ คัพ แมนฯ ซิตี้ ขยี้ 4-0
และพรีเมียร์ลีก แมนฯ ซิตี้ ชุดสำรอง เปิดบ้านเชือด 1-0
3 ปีซ้อน…ปีหน้าก็ยังเต็งแชมป์
แข็งแกร่งไปทุกส่วนสัด และไม่มีใครสามารถโต้แย้งได้ว่า แมนฯ ซิตี้ ไม่คู่ควรกับแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้
นี่คือแชมป์ 3 ปีซ้อน, แชมป์หนที่ 5 จาก 6 ปีหลัง, แชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 5 ของ เป๊ป และแชมป์ลีกสมัยที่ 9 ของสโมสร
ด้วยภาพที่เป็นมาแบบนี้ ทำให้ไม่ต้องสงสัยว่า ซีซั่นหน้า 2023/24 แมนฯ ซิตี้ ก็ยังจะเป็นตัวเก็งเต็งแชมป์เหนือทุกคู่แข่งอยู่เหมือนเช่นเดิม
สิ่งเดียวที่ต้องจับตาคือ แมนฯ ซิตี้ จะฟาด 3 แชมป์ซีซั่นนี้สำเร็จไหม
และถ้ามันเกิดขึ้นจริง จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทำให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เลือกวางมือลงจากจุดสูงสุด “ล้างมือในอ่างทองคำ” ไปด้วยความอิ่มตัว หรือไม่อย่างไร
มุมแสดงทรรศนะ