ข่าวพรีเมียร์ลีก อังกฤษข่าวฟุตบอล

เบื้องลึกที่แท้จริง! เหตุผลของการสั่งเด้ง ประเด็นร้อนสืบเนื่องจากการปลด “เกรแฮม พ็อตเตอร์”

ufasexygame


จบลงอย่างเซอร์ไพรส์และไม่เซอร์ไพรส์ในคราวเดียวกัน กับการที่ เชลซี ประกาศปลด เกรแฮม พ็อตเตอร์ ออกจากตำแหน่ง รุ่งขึ้นหลังจบเกมแพ้ แอสตัน วิลล่า คาบ้าน 0-2 โอกาสนี้ ลองไปมุดมุ้ง สแตมฟอร์ด บริดจ์ ดูกันหน่อย ว่าเบื้องหน้าเบื้องหลังและสิ่งสืบเนื่องจากการตัดสินใจครั้งนี้ มีอะไรบ้าง

เหตุผลของซองขาว

แม้ว่าความพ่ายแพ้ต่อ แอสตัน วิลล่า คาบ้าน 0-2 จะน่าผิดหวัง แต่ก็ถือเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ และสร้างความตกตะลึงในหมู่นักเตะ เชลซี อยู่ไม่น้อย กับการที่มีคำสั่งสายฟ้าแลบออกมาในช่วงดึกวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

รายงานจาก เดอะ เทเลกราฟ บอกว่า นักเตะทีมตราสิงห์ “ไม่ได้ระแคะระคายมาก่อน” ว่าพวกเขาจะได้ร่วมงานกับเจ้านายชาวอังกฤษเป็นวันสุดท้าย และลงเล่นเกมสุดท้ายในยุค พ็อตเตอร์ ไปแล้ว ซึ่งก็เนื่องมาจากแม้จะแพ้เกมล่าสุดนี้ก็จริง แต่รูปทรงฟุตบอลยังถือว่าไม่แย่ สร้างโอกาสจบได้ถึง 27 ครั้ง อีกทั้งเป็นวันที่ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ นายทวารแอสตัน วิลล่า ผีเข้าพอดีเสียด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น การชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1 จากระยะ 5 เกมหลังรวมทุกถ้วย, โดยที่ในระหว่างนั้นมีการตีตั๋วเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ก็ไม่ได้ถือว่าเลวร้ายเกินกว่าจะรับไหว

อย่างไรก็ตาม ดิ แอธเลติก รายงานจากวงใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ว่าสาเหตุของการเลือกปลด พ็อตเตอร์ ออกจากตำแหน่ง มีอย่างน้อย 3 ข้อด้วยกัน

1) การประชุมในวันอาทิตย์

เช้ารุ่งขึ้นหลังความพ่ายแพ้คารัง ท่านประธาน ท็อดด์ โบห์ลี่, ตัวแทนจากบอร์ดบริหาร และ เกรแฮม พ็อตเตอร์ มีนัดประชุมครั้งสำคัญกัน ซึ่งชัดเจนว่า การเจรจาระหว่างบอร์ดกับตัวกุนซือครั้งนี้ ได้ผลออกมาในทิศทางที่ขัดแย้งกัน ความเห็นไม่สอดคล้องกัน

ที่สำคัญสุดคือ ฝ่ายที่มีอำนาจตัดสินใจ 4 ราย ซึ่งประกอบด้วย โบห์ลี่, มือขวาคนสนิท เบห์แดด เอ็กห์บาลี, พอล วินสแตนลี่ย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสรรหานักเตะ และ ลอว์เรนซ์ สจ๊วร์ต ผู้อำนวยการเทคนิค ต่างเห็นพ้องต้องกันว่าพวกเขา “ไม่เห็นพัฒนาการอย่างที่ควรจะเป็น” จาก เชลซี ยุค พ็อตเตอร์ ภายหลังลงทุนไปกว่า 500 ล้านปอนด์ใน 2 หน้าตลาดล่าสุด

2) การหลุดลงครึ่งล่างของตาราง

อีกหนึ่งในเหตุผลของการตัดสินใจยื่นซองขาว ก็คือการที่พวกเขาไม่ยินดีที่จะรับความจริงว่า เชลซี ได้หลุดลงมาอยู่ครึ่งล่างของตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก แล้ว ด้วยการรั้งอันดับ 11 ขณะเข้าสู่ช่วง 10 เกมสุดท้ายของฤดูกาล ซึ่งทำให้ความหวังเล็กๆ ของการแทรกขึ้นไปติดอย่างน้อยสักท็อป 6 ริบหรี่ลงทุกขณะ จากที่ตอนนี้ เชลซี มี 38 คะแนน ตามหลังอันดับ 6 ไบรท์ตัน (43) อยู่ 5 คะแนน แม้แต้มจะไม่ได้ห่างมาก…แต่ประเด็นคือ ไบรท์ตัน แข่งน้อยกว่าถึง 2 นัด (ส่วนอันดับ 4 แมนฯ ยูไนเต็ด ทิ้งห่าง เชลซี ถึง 12 แต้ม)

3) ผลงานภาพรวมใน พรีเมียร์ลีก

ผลงานช่วงหลังอาจดูกระเตื้องขึ้น แต่ พ็อตเตอร์ ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงข้อเท็จจริงไปได้ว่า การทำทีมใน พรีเมียร์ลีก 22 นัดหลังเข้ารับงานแทน โธมัส ทูเคิ่ล ตอนต้นเดือน ก.ย. จนถึงเมื่อสุดสัปดาห์ ปรากฏผลน่าส่ายหัวอย่างหนัก

22 นัด ชนะแค่ 7 ที่เหลือเสมอ 7 และแพ้ไปถึง 8 เกมด้วยกัน

แม้จะมีผลงานการเข้ารอบ 8 ทีม ชปล. เป็นตัวคะคาน แต่ก็ปิดไม่มิดอยู่ดีถึงความย่ำแย่ของก้าวเดินในพรีเมียร์ลีก

Graham Potter

ค่าชดเชย ไม่ถึง 50 ล้านปอนด์

ในขณะที่บรรดานักเตะได้รับแจ้งข่าวปลดกุนซือ ผ่านสื่อและแถลงการณ์อย่างเป็นทางการของสโมสร ทางฝั่งเจ้าตัว พ็อตเตอร์ ได้รับคำสั่งโดยตรง เอ่ยต่อหน้าให้ชัดๆ จากบอร์ด ในศูนย์ฝึกซ้อม ค็อบแฮม เทรนนิ่ง เซนเตอร์

และในขณะที่หลายสื่อเล่นข่าวว่า งานนี้ไม่แคล้ว เชลซี ต้องควักกระเป๋าจ่ายชดเชยสะบึ้มฮึ่มฮั่ม แตะๆ หลัก 50 ล้านปอนด์ ตามสัญญาที่เซ็นกันไว้ยาวเหยียดถึง 5 ปีนั้น ทางฝั่ง ดิ แอธเลติก กลับระบุว่า งานนี้ “ตกลงกันได้”

เชลซี เจรจาหาข้อสรุปเรื่องเงินชดเชยกับ พ็อตเตอร์ ว่าจะยอมจ่ายให้เป็นเงินก้อน “จำนวนหนึ่ง” ซึ่งไม่เป็นที่เปิดเผยต่อสื่อ แต่ไม่ถึง 50 ล้านปอนด์ ตามที่มีรายงานกัน

แต่แม้จะไม่ถึงครึ่งร้อยล้าน เชลซี ก็ “เจ็บหนัก” อยู่ดีกับการตัดสินใจของตัวเอง เมื่อต้องย้อนไปถึงตอนคว้าตัวโค้ชวัย 47 มาโดยต้องจ่าย 22 ล้านปอนด์เป็นค่าฉีกสัญญากับทาง ไบรท์ตัน เรียกว่างานนี้ “โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง” นั่นเอง

Graham Potter

พ็อตเตอร์ อาจรองานใหม่ไม่นาน

พ็อตเตอร์ กลายเป็นกุนซือว่างงานไปอย่างที่ทราบกัน หลังเพิ่งเข้ารับงานใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ แค่ 7 เดือน รวมทำทีมลงสนาม 31 นัด ชนะ 12 เสมอ 8 แพ้ 11

แต่สื่อหลายเจ้าก็เชื่อว่า โค้ชชาวเมืองผู้ดีคงไม่เตะฝุ่นนานนักหรอก ด้วยผลงานดีเด่นที่เคยฝากไว้กับ ไบรท์ตัน ก่อนผละมายัง เชลซี

ดีไม่ดี จะวันนี้วันพรุ่งด้วยซ้ำไป ที่ พ็อตเตอร์ จะไปลงเอยกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่กำลังมองหากุนซือใหม่พอดี หลังสั่งเด้ง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ไปเป็นที่เรียบร้อย (ก่อน เชลซี ปลด พ็อตเตอร์ ไม่กี่ชั่วโมง)

และแม้ยังมีความเป็นไปได้ว่า พ็อตเตอร์ จะขอเบรคทำใจ พักหายใจหายคอก่อนสักหน่อย โอกาสก็ยังเปิดกว้างสำหรับ เลสเตอร์ หรือทีมอื่นๆ อยู่ดี ที่จะทำข้อตกลงให้ พ็อตเตอร์ ตกปากรับคำก่อนจะเริ่มงานจริงจังช่วงซัมเมอร์ ก่อนฤดูกาลหน้าจะมาถึง

Brendan Rodgers, Graham Potter

บรูโน่ ซัลตอร์ ไม่ใช่ใครที่ไหน

ทันทีหลังจากปลด พ็อตเตอร์ พ้นตำแหน่ง เชลซี ก็ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า บรูโน่ ซัลตอร์ จะได้เป็น “กุนซือชั่วคราว” (Interim Head Coach) ไปจนกว่าจะหาข้อสรุปนายใหญ่ถาวรคนใหม่ได้

แล้วงานแรกของ บรูโน่ ก็เป็นของแข็งอย่างการเปิด สแตมฟอร์ด บริดจ์ รับมือ ลิเวอร์พูล เสียด้วย ในวันอังคารนี้

จากนั้นถ้ายังตั้งกุนซือใหม่ไม่สำเร็จ บรูโน่ ก็จะนำทีมเยือน วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ช่วงสุดสัปดาห์, ฟัดกับ เรอัล มาดริด ชปล. 8 ทีมนัดแรกที่สเปน กลางสัปดาห์หน้า, รับมือ ไบรท์ตัน แล้วก็ชี้ขาดกับ เรอัล มาดริด อีกหนในนัดถัดไปอีก

สำหรับ บรูโน่ ซัลตอร์ ก็ไม่ใช่คนหน้าใหม่ชื่อไม่คุ้นหูอะไรที่ไหน เมื่ออดีตแบ็กขวาสแปนิช สร้างชื่อกับ ไบรท์ตัน ในการค้าแข้งเป็นต้นสังกัดสุดท้าย ระหว่างปี 2012-2019 ด้วยการลงสนามรวมกว่า 200 นัด หรือก็คือเพิ่งแขวนสตั๊ดเลิกเล่นไปเมื่อ 4 ปีก่อนนี้เท่านั้น

ภายหลังเลิกเล่นแล้ว บรูโน่ ก็ขยับมาจับงานโค้ชด้านพัฒนานักเตะทีมชุดใหญ่ ให้กับ ไบรท์ตัน ก่อนที่จะถูกหอบหิ้วจาก พ็อตเตอร์ ให้ตามมายัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยกันในฐานะผู้ช่วยผู้จัดการทีม

ซึ่งก็แน่นอนว่า การคุม เชลซี แม้เพียงชั่วคราว ก็คืองานแรกสุดบนเส้นทางสายกุนซือของโค้ชมือใหม่วัย 42

Bruno Saltor

ใครบ้างที่เข้าข่าย “กุนซือใหม่สิงห์”

และแม้จะตั้ง บรูโน่ ซัลตอร์ ขึ้นเป็นรักษาการ แต่ก็มองออกกันง่ายๆ อยู่แล้วว่า เชลซี คงไม่คิดจะปักหลักเปิดโอกาสให้โค้ชสแปนิชได้ทำทีมระยะยาวแต่ประการใด (เว้นแต่จะพลิกฟอร์ม พาทีมกระหน่ำ ลิเวอร์พูล สวยๆ ตามด้วยเขี่ย เรอัล มาดริด ร่วงไป)

ว่ากันว่า กุนซือใหม่ที่ เชลซี กำลังจับจ้องสายตา มีอยู่ประมาณสี่ซ้าห้ารายด้วยกัน

– ยูเลียน นาเกิลส์มันน์

ว่างงานอยู่พอดีหลังแยกทางกับ บาเยิร์น มิวนิค และคนนี้แหละที่ ฟาบริซิโอ โรมาโน่ รายงานว่าเป็น “ตัวเลือกแรกสุด” ที่ เชลซี เข้าหา

– เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่

อีกหนึ่งโค้ชมือดีที่กำลังว่างงาน เมื่อยังไม่ได้ตอบรับงานใหม่กับใคร ให้หลังการที่ไม่ได้ไปต่อกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กระนั้นการที่เคยเป็นฮีโร่ของอริอย่าง สเปอร์ส มาก่อน ก็ทำให้แฟนบางรายอาจตะขิดตะขวงใจกับทางเลือกนี้อยู่บ้าง

– มาร์โก ซิลวา

พาน้องใหม่อย่าง ฟูแล่ม บินสูงที่อันดับ 10 ณ ตอนนี้ ทำให้ถูกเชื่อมโยงกับแทบทุกทีมใหญ่ที่มองหากุนซือใหม่ ก่อนหน้านี้ก็เป็นข่าวกับ สเปอร์ส มาด้วย

– หลุยส์ เอ็นริเก้

ยืนยันเองจากปากว่าอยากมีโอกาสได้มาทำงานใน พรีเมียร์ลีก ดูสักครั้ง หลังประสบความสำเร็จมากับ บาร์เซโลน่า และล้มเหลวกับทีมชาติสเปน แต่เจ้าตัวก็ยืนยันเช่นกันว่าไม่รีบ…ลองคุยก่อนแล้วกัน

– ซีเนอดีน ซีดาน

ตำนานดาวเตะอัจฉริยะที่เก่งกาจไม่แพ้กันเมื่อขึ้นจับงานโค้ช ถูกโยงกับทุกทีมใหญ่ที่ต้องการกุนซือใหม่ แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลงเอยกับทีมไหน และมีการมองกันว่า โอกาสจะมาอังกฤษแบบปุบปับ ยากหน่อย เมื่อเจ้าตัวไม่สปีคอิงลิชนั่นเอง

– โชเซ่ มูรินโญ่

แม้จะดูมีความเป็นไปได้น้อย เมื่องานกับ โรม่า ก็ดูจะไปได้ดี และเจ้าตัวก็ผ่านช่วงเวลากับ เชลซี มาแล้วถึง 2 ครั้ง (2004-2007 กับ 2013-2015) เพียงแต่ก็ยังมีการเปิดเรตไว้ไม่สูงนัก ที่ 14/1 ว่าจะรีเทิร์นรอบสาม

ทั้งนี้และทั้งนั้น ไม่ว่ากุนซือใหม่ของ เชลซี จะลงเอยที่ใคร คนๆ นั้นก็คงต้อง “ทำความเข้าใจ” ไว้ล่วงหน้าสักหน่อย ว่าคนแถวนี้เขาใจร้อน… โรมัน อบราโมวิช ไปแล้ว ท็อดด์ โบห์ลี่ เข้ามาใหม่ ไม่ได้ต่างกันเลย!

ทำเนียบกุนซือ เชลซี ช่วงทศวรรษหลัง

2013-2015 โชเซ่ มูรินโญ่

2015-2016 กุส ฮิดดิ้งค์ (ชั่วคราว)

2016-2018 อันโตนิโอ คอนเต้

2018-2019 เมาริซิโอ ซาร์รี่

2019-2021 แฟร้งค์ แลมพาร์ด

2021-2022 โธมัส ทูเคิ่ล

2022-2023 เกรแฮม พ็อตเตอร์

2023 บรูโน่ ซัลตอร์ (ชั่วคราว)

FBL-EUR-C1-CHELSEA-AC MILAN

มุมแสดงทรรศนะ